ชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check : สตาร์ตรถนอน เสี่ยงเสียชีวิต จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์เตือนว่า ห้ามสตาร์ตรถนอน เพราะอาจเสียชีวิตได้ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สุรมิส เจริญงาม นักทดสอบและผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ เรื่องนี้จริงและแชร์ต่อได้ แต่ก็มีคนแย้งว่าทำแล้วไม่เห็นเป็นอะไรเลย เรียกว่าอยู่ที่พื้นที่จอดรถและเวลาในการนอนด้วย ทำไมถึงบอกว่า “ห้ามสตาร์ตรถนอน” ? เครื่องยนต์ระบบสันดาปสามารถปล่อยก๊าซพิษออกมาได้ โดยปกติแล้วขณะที่อยู่ในรถยนต์จะมีก๊าซพิษ 2 ตัวหลัก ๆ คือ 1. คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon dioxide) ออกจากร่างกายคนเรา 2. คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) ออกจากปลายท่อไอเสียรถยนต์ ทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ มีน้ำหนักเบากว่าก๊าซออกซิเจน (Oxygen) เวลาขับรถยนต์ปกติและรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตลอดเวลา ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่พ่นออกมาก็กระจายอยู่ในบรรยากาศ การขับรถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้าก็จะมีก๊าซออกซิเจนเข้ามาในตัวรถด้วย และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่กระจายอยู่ในรถก็ถูกดันออกไปด้านนอกตัวรถด้วย ถึงแม้ว่าคนเราจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาตลอดเวลา แต่รถยนต์ถูกออกแบบให้อากาศภายนอกหมุนเวียนเข้ามาได้ จึงทำให้สามารถขับขี่รถยนต์ได้โดยไม่มีปัญหา กรณีการจอดรถยนต์บริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่ดี ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากท่อไอเสียรถยนต์สามารถย้อนกลับเข้ามาในตัวรถยนต์ได้ ก๊าซพิษสามารถเข้าสู่ตัวรถยนต์ทางไหน ? รถยนต์แต่ละคันจะมีช่องระบายที่เปิด-ปิดอัตโนมัติตามแรงลม ดังนั้น การจอดรถยนต์บริเวณที่การถ่ายเทอากาศไม่ดี ก๊าซพิษก็จะอยู่บริเวณรอบตัวรถจะซึมผ่านเข้าตัวรถส่งผลกับคนที่อยู่ในรถยนต์ได้ ขณะที่เราหายใจนำก๊าซออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย เม็ดเลือดแดงจับกับออกซิเจนไหลเวียนสู่ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : จ้องหน้าจอคอมมากเกินไป ทำให้ม่านตาไหม้ คล้ำ ทำให้ตาเหลือง จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความเตือนว่า การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้ม่านตาไหม้ คล้ำ ตาเหลือง จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย การที่ “ม่านตา” ของคนเราจะเป็นสีอะไร เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่กำเนิด เป็นกรรมพันธุ์ แสงจากดวงอาทิตย์ หรือแสงที่เกิดจากการใช้สายตา ไม่ได้ทำให้ “ม่านตา” มีสีเข้มขึ้นเหมือนสีของผิวหนัง ในดวงตามีกลไกป้องกันแสงหรือความสว่างที่จะไปเปลี่ยนแปลง หรือทำอันตรายดวงตาอยู่หลายชั้น เช่น เปลือกตาหรือกระจกตา รวมทั้ง การหดและขยายของตัวม่านตา ทำให้สีของม่านตาไม่ได้แปรเปลี่ยนตามการถูกแสง ไม่ว่าจะเป็นแสงอาทิตย์ แสงไฟจากโทรศัพท์มือถือ หรือแสงจากคอมพิวเตอร์ “ภาวะดวงตาเป็นสีเหลือง” โดยทั่วไปคงหมายถึงบริเวณตาขาว หรือเยื่อบุตาขาว แต่สมัยก่อนมักจะได้ยินคำว่า “ดีซ่าน” หรือโรคที่ทำให้ตาเหลือง ซึ่งเกิดจากสารบิลิรูบิน (Bilirubin) ซึ่งไปสะสมบริเวณต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ทั้งผิวหนัง และเยื่อบุตาทำให้ตามีสีเหลือง ในความเป็นจริงแล้ว นอกจากตาที่เป็นสีเหลือง (คนที่เป็นโรคตับ หรือดีซ่าน) จริง ๆ แล้วภาวะเยื่อบุตาขาวของคนเรา ปกติโดยธรรมชาติจะเป็นสีขาวและใส แต่อาจจะเป็นสีเหลือง […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ขยี้ตาบ่อยทำให้หน้าแก่ก่อนวัย จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์เตือนการขยี้ตาบ่อย ๆ ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย ใครที่ชอบขยี้ตาเลิกได้เลิก ก่อนจะเกิด 4 ลักษณะที่ทำให้หน้าดูแก่ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย การขยี้ตาทำให้หน้าดูแก่จริง เพราะการกดขยี้บริเวณเปลือกตา ทำให้มีผลกระทบเข้าไปในลูกตาได้ ข้อ 1. ขยี้ตาบ่อยทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย เพราะผิวหนังบริเวณเปลือกตาเป็นจุดที่บอบบาง การใช้แรงถูหรือขยี้ลงบนผิวจึงอาจทำให้เกิดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา และทำให้ผิวสูญเสียความกระชับ ผิวหนังหย่อนคล้อยได้ จริงมั้ย ผิวหนังรอบ ๆ บริเวณเปลือกตาเป็นผิวหนังที่มีความบางที่สุดของร่างกาย เมื่อถูกแรงกดหรือแรงขยี้ก็จะทำให้สูญเสียความกระชับ เกิดการหย่อนคล้อยบริเวณเปลือกตาได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อ 2. ขยี้ตาบ่อยทำให้ตาคล้ำ การถูลงบนเปลือกตาซ้ำ ๆ ก็ทำให้เกิดรอยคล้ำที่เปลือกตาได้ จากการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด จนทำให้มองเห็นหลอดเลือดดำได้ชัดเจนกว่าปกติ จริงมั้ย ? การขยี้ตาบ่อย ๆ พบได้ในคนที่เป็นภูมิแพ้ ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ เปลือกตามีสีเข้มกว่าปกติ  การขยี้ตาทำให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อทั้งตัวผิวหนังเองและหลอดเลือดบริเวณรอบดวงตา ทำให้มีการรั่วของน้ำออกมาจากหลอดเลือดมาอยู่บริเวณผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีความชื้น มีสีเข้มขึ้น และเป็นอย่างถาวร […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ‘ตับพัง’ กับการกินสมุนไพร

บนสื่อสังคมออนไลน์มีหลากหลายข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการตับพัง “ตับพัง” คืออะไร มีอาการอย่างไร และการกินสมุนไพรจะส่งผลเสียต่อตับหรือไม่ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศ.ดร.นพ.ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคตับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย “ตับ” เป็นอวัยวะที่สำคัญ เวลากินอะไรก็ตาม มีการย่อยในกระเพาะอาหาร หลอดเลือดในทางเดินอาหารจะนำสารอาหารเข้าไปสู่ตับ ถ้าตับเกิดแพ้สารอาหารเรียกกันว่า “ตับอักเสบ” ตับอักเสบ ไม่แสดงอาการ ? เนื่องจากตับเป็นอวัยวะขนาดใหญ่ หนักประมาณ 1 กิโลกรัม เวลาตับเกิดการอักเสบ หรือเกิดการทำลายไปบางส่วนก็จะมีการทำงานทดแทนกันได้ ตับของคนเราเกิดการอักเสบมักจะไม่มีอาการ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าตับในร่างกายเกิดการอักเสบ ถ้าตับถูกทำลายไปมาก ๆ ก็อาจเริ่มมีอาการเพลีย ไม่ค่อยมีแรง เหนื่อยง่าย มีปัสสาวะสีเหลืองเข้มขึ้น ถ้าสังเกตดี ๆ พอเหลืองมาก ๆ จะสังเกตที่ตาขาวก็จะเหลืองขึ้น ที่บอกว่าถ้ามีโรคตับแล้วก็จะมีตัวเหลืองตาเหลือง (ดีซ่าน) อาการหลัก ๆ ในคนที่เป็นโรคตับรุนแรง เลือดจะไม่แข็งตัว หรือเลือดแข็งตัวผิดปกติ และมีเลือดออกตามร่างกาย บางคนเกิดอาการสับสน ซึม จนถึงขั้นหมดสติ หรืออารมณ์แปรเปลี่ยนไป อาจจะมีขาบวม […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : แช่น้ำแข็งบำบัดโรค จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์แนะนำการแช่น้ำแข็งเพื่อบำบัดโรค ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด แก้อาการปวดได้ จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.กภ.วรรธนะ ชลายนเดชะ คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา “การแช่น้ำแข็ง” สามารถใช้ได้บางกรณี และนิยมใช้ในกลุ่มนักกีฬา อุณหภูมิของน้ำที่ใช้แช่น้ำแข็ง ประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส ร่างกายแช่น้ำแข็ง เกิดอะไรขึ้นกับกลไกร่างกาย ? ตามหลักวิชาการ ความเย็นทั้งตัวจะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลาย (แขนและขา) ลดลง เลือดจะไหลเข้าสู่ส่วนกลางของร่างกายเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่คงที่ คือ 37.5 องศาเซลเซียส ความเย็นกระตุ้นการทำงานของระบบร่างกาย ให้เมตาบอลิซึม (Metabolism) หรือระบบการเผาผลาญเพิ่มขึ้น อาจจะมีอาการสั่นของกล้ามเนื้อได้ และเพิ่มความร้อนภายในร่างกาย ผลหลัก ๆ คือกระตุ้นให้สารเอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphins) หลั่งออกมา จะทำให้ร่างกายรู้สึกสบาย โดย “เอ็นดอร์ฟินส์” เป็นสารส่งผ่านเส้นประสาทที่ผลิตโดยต่อมใต้สมอง (Pituitary gland ) และต่อมใต้สมองส่วนล่าง (Hypothalamus) เป็นฮอร์โมนตามธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการปวด สำหรับคนที่จะใช้วิธีการแช่น้ำแข็งทั้งตัวจะต้องมีร่างกายแข็งแรง […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : 6 วิธีทำให้พริกดก จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์แนะนำหลากหลายวิธีทำให้พริกดก ทั้งการรดราดด้วยสูตรส่วนผสมต่าง ๆ ไปจนถึงการตัดใบตัดยอด 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.จุติภรณ์ ทัสสกุลพนิช ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลากหลายวิธีที่ทำให้พริกดก มีทั้งส่วนจริงและไม่จริง เช่น ส่วนที่จริง การตัดแต่งกิ่ง ทำให้ดอกและผลดกได้จริง แต่เรื่องการเติมสารใด ๆ ลงไป ก็ต้องดูรายละเอียดของสารแต่ละชนิดที่ใส่ลงไป สูตร 1 : ยาพาราเซตามอล ผสม เครื่องดื่มชูกำลัง และ น้ำเปล่า ช่วยให้พริกดกได้ จริงหรือ ? ไม่จริง เพราะว่า ยาพาราเซตามอล  (Paracetamol) มีผลลบกับพืช ซึ่งอาจจะทำให้การสังเคราะห์แสงของพืชลดลง ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง มีรายงานเพียงว่าทำให้พืชโตดีขึ้น ไม่ได้มีรายงานการทำให้พริกมีดอกดกและผลดก สูตร 2 : น้ำหมัก 5 พลัง (มูลค้างคาว มูลไส้เดือน น้ำหมักปลา ยูเรียน้ำ และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง) ช่วยพริกดกได้ ? สูตรนี้ก็มีส่วนจริง […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : กินไข่คนมะเขือเทศดิบ อันตราย จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์เตือนอันตรายใกล้ตัว เด็กในต่างประเทศหมดสติ หลังกินไข่คนมะเขือเทศดิบ เพราะในมะเขือเทศดิบมีสารพิษ ที่ทำให้อัมพาตและตายได้ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.จุติภรณ์ ทัสสกุลพนิช ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในมะเขือเทศดิบมีสารพิษจริง แต่ปริมาณน้อยมาก สารพิษในมะเขือเทศดิบ คือ โซลานีน (Solanine) จากข่าวที่แชร์กันบอกว่าเป็นพิษจากโซลานีน คิดว่าไม่จริง 1. ถึงแม้จะเป็น “มะเขือเทศดิบ” แต่มีปริมาณโซลานีนที่น้อยมาก 2. โซลานีนสัมผัสความร้อน 170 องศาเซลเซียสก็สลายหมดตั้งแต่ 20-90 เปอร์เซ็นต์ “โซลานีน” เป็นสารที่พบในพืชวงศ์พริก-มะเขือ หรือวงศ์โซลานาซี (Solanaceae) เมื่อคนเราได้รับสารโซลานีนเข้าสู่ร่างกายก็จะมีอาการปวดศีรษะ ตัวร้อน คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าได้รับปริมาณสูงอาจมีอาการมึนงง อ่อนเพลีย จนกระทั่งหมดสติ สารโซลานีน พบได้ใน “มันฝรั่งดิบ” ? ความน่ากังวลของสารโซลานีน คือ ในมันฝรั่งดิบและมันฝรั่งที่กำลังแตกหน่อออกมา มันฝรั่งแตกหน่อใหม่ เซลล์บริเวณนั้นมีสีเขียว ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสร้างสารโซลานีนสูงมาก สามารถหลีกเลี่ยงโดยการไม่ใช้มันฝรั่งที่กำลังแตกหน่อ ด้วยการเฉือนเนื้อบริเวณที่แตกหน่อทิ้ง เมื่อมันฝรั่งผ่านความร้อนสูงมากกว่า […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : จอประสาทตาอักเสบ จากโรค VKH

จอประสาทตาอักเสบเกิดได้จากสาเหตุใด และจะมีอาการเป็นอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย “จอประสาทตา” เป็นอวัยวะที่อยู่ข้างในลูกตา มีความสำคัญมาก ๆ สำหรับดวงตาของมนุษย์ จอประสาทตามีหน้าที่รับภาพต่าง ๆ ส่งไปที่สมองเพื่อแปลผลว่าเราเห็นอะไร ภาวะจอประสาทตาอักเสบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ และมีหลายโรคที่ทำให้จอประสาทตาอักเสบ จอประสาทตาอักเสบพบร่วมกับความผิดปกติส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ที่เรียกภาวะนี้ว่า โรคโวกต์ โคยานางิ ฮาราดะ  (Vogt Koyanagi Harada disease : VKH) โรคนี้มักพบในคนวัยทำงาน ช่วงอายุมากกว่า 20 ถึงมากกว่า 40 ปี คนที่เป็นโรค Vogt Koyanagi Harada ถ้าได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องก็จะทำให้เกิดอันตรายกับจอประสาทตาถาวรและเกิดความพิการตามมาได้ โรค Vogt Koyanagi Harada ทำให้จอประสาตาอักเสบ เกิดจากสาเหตุอะไร ? โรค Vogt Koyanagi […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : สาเหตุและการรักษาโรคหลอดเลือดขอด

หลอดเลือดขอดคืออะไร เกิดได้จากสาเหตุใด มีวิธีการป้องกันและรักษาอย่างไร ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.เทิดภูมิ เบญญากร สาขาวิชาศัลยศาสตร์หลอดเลือด ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลอดเลือดขอดก็คือหลอดเลือดดำชั้นตื้นเกิดการหดตัว และการคั่งของเลือด ทำให้มองเห็นเหมือนตัวหนอน มักพบบริเวณขาด้านใน หลอดเลือดขอด เกิดจากสาเหตุอะไร ? หลอดเลือดขอดเกิดจากความดันในหลอดเลือดดำที่มากขึ้น ขณะยืนหรือเดิน ทำให้เกิดการคั่งของเลือดและหลอดเลือดมีการโป่งพองและขดตัว พบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย นอกจากนี้ วิถีชีวิตประจำวันของแต่ละคนก็มีความสัมพันธ์กับหลอดเลือดขอด เช่น ทำงานที่ต้องเดินหรือยืนนาน ๆ มากเกินไป ชอบนั่งไขว่ห้าง น้ำหนักตัวเกิน (อ้วนลงพุง) รวมถึงการใส่รองเท้าส้นสูง จึงทำให้พบผู้ป่วยหลอดเลือดขอดที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย สำหรับอาชีพที่พบว่าเป็นหลอดเลือดขอดมากก็คือ อาชีพที่ต้องยืนหรือเดินเป็นระยะเวลานานต่อวันโดยไม่ได้กำหนดเวลาว่ากี่ชั่วโมง เช่น พยาบาล แต่ถ้ามีการพักขาบ้าง ยกขาบ้าง ก็จะช่วยชะลอการเป็นหลอดเลือดขอดได้ดีขึ้น “หลอดเลือดขอด” สังเกตได้อย่างไร ? สามารถสังเกต “หลอดเลือดขอด” ได้จากหลอดเลือดที่ปูดขึ้นบริเวณขา โดยเฉพาะขาด้านใน (บริเวณใต้เข่าลงมา) มีอาการที่บอกได้ว่าเป็นหลอดเลือดขอดก็คือ ยืนนาน ๆ มีอาการเมื่อยน่องบ่อย ๆ ขาตึงบ่อย […]

ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : รู้จักและเข้าใจหลอดเลือด

ระบบหลอดเลือดทำงานอย่างไร มีความสำคัญอย่างไร เราควรดูแลให้หลอดเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.นพ.เทิดภูมิ เบญญากร สาขาวิชาศัลยศาสตร์หลอดเลือด ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คนเรามีระบบหลอดเลือดหลัก 2 ระบบคือ หลอดเลือดดำ และหลอดเลือดแดง โดยมีหลอดเลือดฝอยอยู่ระหว่างกลาง หลอดเลือดแดง (artery) รับเลือดดีจากหัวใจ ส่งไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ สมอง หลอดเลือดดำ (vein) รับเลือดที่มีออกซิเจนต่ำกลับเข้าสู่ปอด เพื่อไปฟอกและส่งคืนหัวใจ หลอดเลือดฝอย (capillary) ทำหน้าที่รับเลือดจากเซลล์เล็ก ๆ และส่งเข้าหลอดเลือดใหญ่ต่อไป “หลอดเลือด” สำคัญกับร่างกาย อย่างไร ? ถ้าเปรียบร่างกายเสมือนบ้าน หลอดเลือดก็เหมือนท่อน้ำที่ส่งสารอาหาร ส่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปในบ้านให้ทำหน้าที่ได้ปกติ หลอดเลือดเปรียบเสมือนท่อน้ำเลี้ยงหลัก ถ้าขาดเลือดทำให้อวัยวะต่าง ๆ มีปัญหาขึ้นมาได้ โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด มีอะไรบ้าง ? โรคของหลอดเลือดมีหลายโรค เช่น หลอดเลือดตีบ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานมีประสิทธิภาพแย่ลง […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ให้สุนัขกินตับมากอันตราย จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ว่า การให้สุนัขกินตับมากจะเป็นอันตราย วิตามินเอสะสมจนเป็นพิษ ทำให้สุนัขซึม เบื่ออาหาร เจ็บขาเวลาเดิน ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.สพ.ญ.ดร.อุตรา จามีกร ภาควิชาสัตวบาล คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถ้าให้สุนัขกิน “ตับ” ปริมาณมากอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาพอสมควร สามารถเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ในภายหลัง มีหลายปัจจัยที่ให้สุนัขกินตับมากอาจเป็นอันตรายได้ ? “ตับ” มีวิตามินเอสูงมาก หากสะสมในร่างกายมากเกินไปจะเป็นพิษต่อสุนัขได้ ตับไก่ 100 กรัม มีวิตามินเอประมาณ 10,000 I.U. ตับหมู 100 กรัม มีวิตามินเอประมาณ 21,000 I.U. ถ้าเปรียบเทียบความต้องการวิตามินเอของสุนัขและแมว ก็จะอยู่ที่ประมาณ 100-110 I.U. ต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัว พูดง่าย ๆ ถ้าเลี้ยงสุนัขมีน้ำหนักตัว 10 กิโลกรัม ก็จะต้องการวิตามินเอเพียงแค่ประมาณ 1,100 I.U. เท่านั้น ดังนั้น ถ้าให้ตับไก่ 100 กรัมก็มีวิตามินเอแล้ว 1,1000 I.U. […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ให้ความเย็นทั้งร่างกาย รักษาได้หลายโรค จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์แนะนำการบำบัดที่เรียกว่า Whole body Cryotherapy เดินเข้าไปในตู้ที่มีความเย็นจัด รักษาโรค ช่วยชะลอวัย แก้นอนไม่หลับ แก้ออฟฟิศซินโดรม จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.กภ.วรรธนะ ชลายนเดชะ อาจารย์คณะกายภาพบำบัด และศูนย์กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา การบำบัดที่เรียกว่า Whole body Cryotherapy ยังไม่มีหลักฐานการวิจัยที่ยืนยันแน่นอน แต่น่าจะมีผลกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว เหมือนกับการออกกำลังกาย มีอะไรกระตุ้นผิวหนังทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว มีการหลั่งของสารเอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphins) ทำให้รู้สึกสบาย ถ้าเปรียบเทียบกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ที่ได้ผลมากกว่านี้ แนวคิด วิธีการรักษา Whole body Cryotherapy ? Whole body Cryotherapy คือการบำบัดด้วยความเย็นจัดทั้งตัว คนเข้าไปอยู่ในห้อง Chamber บางชนิดเข้าทั้งตัว บางชนิดโผล่ศีรษะ อุณหภูมิที่ใช้คือ ลบ 130 องศาเซลเซียส ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น ส่งผลทำให้ร่างกายตื่นตัวหลั่งเอ็นดอร์ฟินส์ออกมา การให้ความเย็นทั้งร่างกาย […]

1 10 11 12 13 14 27