“จี 7” เผยพร้อมสนับสนุนยูเครนตราบนานเท่านาน

วอชิงตัน 12 ต.ค. – ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 ระบุว่า กลุ่มจี 7 จะสนับสนุนยูเครนต่อไปตราบนานเท่านาน หลังรัสเซียเปิดฉากยิงจรวดโจมตีหลายเมืองและกรุงเคียฟของยูเครนเมื่อวันจันทร์ กลุ่มจี 7 ซึ่งประกอบด้วยแคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า กลุ่มจี 7 จะยังคงสนับสนุนด้านการเงิน มนุษยธรรม กองทัพ และการทูตให้แก่ยูเครน และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างยูเครนต่อไปตราบนานเท่านาน แถลงการณ์ดังกล่าวของกลุ่มจี 7 ยังประณามประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่ลงนามอนุมัติการผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียโดยอ้างผลประชามติที่จัดขึ้นเอง ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้กลุ่มจี 7 สนับสนุนยูเครนในด้านการป้องกันภัยทางอากาศมากขึ้น รวมถึงภารกิจระหว่างประเทศบริเวณพรมแดนยูเครน-เบลารุส หลังจากที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปูติน ได้ยินยอมให้ทหารรัสเซียลงพื้นที่ประจำการบริเวณพรมแดนติดยูเครน โดยระบุว่าเป็นการป้องกันภัยคุกคามจากรัฐบาลยูเครน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เผยกับซีเอ็นเอ็นในวันอังคารว่า […]

นาซาเผยยาน “DART” เปลี่ยนวงโคจรดาวเคราะห์น้อยสำเร็จ

วอชิงตัน 12 ต.ค. – องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือ นาซา ระบุว่า ยานสำรวจชื่อ ‘ดาร์ต’ (Double Asteroid Redirection Test-DART) ที่นาซาส่งขึ้นไปชนดาวเคราะห์น้อยในเดือนกันยายน ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนวิถีวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ นาซาเผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ผลการติดตามวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย ‘ไดมอร์ฟอส’ (Dimorphos) ที่ถูกยานสำรวจดาร์ตพุ่งชนเมื่อวันที่ 26 กันยายนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่า การพุ่งชนดังกล่าวสามารถเปลี่ยนวิถีวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสได้ และทำให้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีวิถีโคจรเข้าใกล้ดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกดวงที่มันเป็นบริวารมากขึ้น รวมถึงทำให้วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสสั้นลง 32 นาที ขณะที่นายบิล เนลสัน ผู้อำนวยการของนาซา ระบุว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นจุดพลิกผันของการป้องกันโลกและมวลมนุษยชาติ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่พล็อตในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ นาซาได้ส่งยานสำรวจดาร์ตขึ้นไปพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอส ซึ่งมีรูปร่างคล้ายไข่ไก่ มีขนาดใหญ่เกือบเท่าสนามฟุตบอล และตั้งอยู่ห่างจากโลก 10.9 ล้านกิโลเมตร โดยเฝ้าติดตามผลของภารกิจในครั้งนี้จากศูนย์ปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์ (APL) ที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในรัฐแมริแลนด์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นสถานที่ออกแบบและสร้างยานอวกาศของนาซา โดยที่ยานสำรวจดาร์ต ซึ่งมีขนาดเกือบเท่าตู้เย็น ได้พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสด้วยความเร็ว 22,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง […]

มหาเศรษฐีแห่งซิลิคอนวัลเลย์ ประกาศทิ้งสัญชาติรัสเซีย

นายยูริ มิลเนอร์ มหาเศรษฐี นักฟิสิกส์ และนักลงทุนชาวอิสราเอลเชื้อสายรัสเซียในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ประกาศสละสัญชาติรัสเซียแล้ว

ชาวอินเดียเปลี่ยนชื่อชุมชน ‘เมืองเหม็นเน่า’ ประท้วงทางการ

นิวเดลี 11 ต.ค. – ประชาชนในชุมชน 2 แห่งที่เมืองอัคราในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อชุมชนเป็น ‘ดินแดนท่อน้ำ’ (gutter colony) และ ‘เมืองเหม็นเน่า’ (smelly town) เพื่อประท้วงการบริหารจัดการของทางการท้องถิ่น เรื่องถนนที่สร้างไม่เสร็จ จนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังและสิ่งปฏิกูล ส่งกลิ่นเหม็นลอยคลุ้งไปทั่วชุมชน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ชาวบ้านในชุมชน 2 แห่งของเมืองอัคราในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของทัชมาฮาลและตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อชุมชนเป็น ‘ดินแดนท่อน้ำ’ และ ‘เมืองเหม็นเน่า’ เพื่อประท้วงการบริหารจัดการของทางการท้องถิ่นเรื่องถนนที่สร้างไม่เสร็จจนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด จนทำให้ชาวบ้านในชุมชนทั้งสองแห่งต้องใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่สกปรกและไม่ถูกสุขอนามัย ชาวบ้านต่างกล่าวโทษทางการท้องถิ่นที่ไม่พยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังทั้งที่มีการร้องเรียนหลายครั้ง อย่างไรก็ดี ชื่อชุมชนใหม่บนป้ายไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลท้องถิ่น แต่ก็กลายเป็นประเด็นถกเถียงไปทั่วเมืองอัคราที่มีประชากร 4.4 ล้านคน บีบีซียังรายงานอ้างคำพูดของชาวบ้านไม่เผยนามที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของทางการท้องถิ่นได้เดินทางมายังชุมชนดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ และรื้อถอนป้ายชื่อชุมชนที่ชาวบ้านตั้งขึ้นใหม่ออกไป หลังจากที่สื่อท้องถิ่นได้รายงานข่าวการประท้วงของชาวบ้านเกี่ยวกับเรื่องการสร้างถนนไม่เสร็จ ชาวบ้านคนหนึ่งเผยกับบีบีซีว่า ถนนดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จมาเป็นเวลานานนับหลายสิบปี แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ จนทำให้เกิดปัญหายุ่งยากตามมามากมาย เช่น น้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด ที่ทำให้ชาวบ้าน 28 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนักบนท้องถนนที่สร้างไม่เสร็จ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ขณะที่ชาวบ้านอีกคนระบุว่า ทางการท้องถิ่นมักนำขยะมาทิ้งรวมกันเป็นกองใหญ่บนถนนจนส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วชุมชน […]

ศรีลังกาเผยจะยังคงสถานะเป็นประเทศรายได้ปานกลาง

ทำเนียบประธานาธิบดีศรีลังกา ระบุว่า ศรีลังกาจะยังคงสถานะเป็น ‘ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง’ ต่อไป แต่จะขอให้ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ อนุมัติเงินกู้บางส่วนที่นำไปช่วยเหลือประเทศยากจนให้แก่ศรีลังกา ซึ่งถือเป็นการแก้ไขคำพูดของโฆษกรัฐบาลศรีลังกาที่ระบุว่า ศรีลังกาจะลดสถานะเป็น ‘ประเทศที่มีรายได้ต่ำ’

สิงคโปร์เรียกคืนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของอินโดฯ อีก 2 รายการ

สิงคโปร์ 11 ต.ค. – สิงคโปร์สั่งเรียกคืนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ ‘หมี่ซีดาพ’ (Mie Sedaap) ของอินโดนีเซียเพิ่มอีก 2 รายการ เนื่องจากพบสารฆ่าแมลงปนเปื้อน ทำให้มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อดังกล่าวถูกสั่งห้ามขายในสิงคโปร์รวมทั้งหมด 6 รายการ สำนักงานควบคุมอาหารของสิงคโปร์ (SFA) เผยวันนี้ว่า ได้สั่งเรียกคืนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ ‘หมี่ซีดาพ’ เพิ่มอีก 2 รายการ ได้แก่ หมี่ซีดาพ คารี สเปเชียล อินสแตนท์ คัพ นูเดิลส์ (Mie Sedaap’s Kari Spesial Instant Cup Noodles) และ หมี่ซีดาพ โคเรียน สไปซี ชิกเกน อินสแตนท์ คัพ นูเดิลส์ (Mie Sedaap’s Korean Spicy Chicken Instant Cup Noodles) เนื่องจากพบสารฆ่าแมลงปนเปื้อน โดยสั่งการโดยตรงไปยังร้านอินโดสต็อป […]

ครม. ศรีลังกาเห็นชอบปรับลดสถานะเป็นประเทศรายได้ต่ำ

โคลัมโบ 11 ต.ค. – คณะรัฐมนตรีศรีลังกามีมติเห็นชอบข้อเสนอปรับให้ศรีลังกาลดสถานะเป็น ‘ประเทศที่มีรายได้ต่ำ’ จากเดิมที่เป็น ‘ประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ’ เพื่อให้ศรีลังกามีโอกาสเข้าถึงกองทุนช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศ โฆษกของรัฐบาลศรีลังกาเผยวันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีศรีลังกาได้ลงมติเห็นชอบข้อเสนอปรับให้ศรีลังกาลดสถานะเป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำในบัญชีจำแนกสถานะประเทศตามระดับรายได้ของธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ จากเดิมที่เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศที่ระบุว่า การปรับลดสถานะเป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำจะทำให้ศรีลังกาเข้าถึงกองทุนช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2491 ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของศรีลังกา ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น การใช้นโยบายประชานิยมลดหย่อนภาษี และคำสั่งห้ามนำเข้าปุ๋ยเคมีนานถึง 7 เดือนเมื่อปีก่อนจนทำให้ภาคการเกษตรเสียหายหนัก จนทำให้ศรีลังกาขาดแคลนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเพื่อนำเข้าสินค้าจำเป็นต่าง ๆ เช่น อาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง และเวชภัณฑ์ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เศรษฐกิจของศรีลังกาในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้หดตัวสูงถึงร้อยละ 8.4 ขณะที่ธนาคารกลางของศรีลังกาคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เศรษฐกิจศรีลังกาอาจหดตัวเพิ่มเป็นร้อยละ 8.7 ในปีนี้ ส่วนข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า ศรีลังกามีค่าจีดีพีต่อประชากรอยู่ที่ 3,815 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 145,600 บาท) ในปี 2564 และจัดเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำฮ่องกงว่าไม่มีอำนาจยึดเรือยอชท์มหาเศรษฐีรัสเซีย

ฮ่องกง 11 ต.ค. – นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ระบุว่า ฮ่องกงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับเรือซูเปอร์ยอชท์สุดหรูของมหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร หลังมีรายงานว่าเรือลำดังกล่าวจอดเทียบท่าในฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ก่อน นายลี ซึ่งถูกสหรัฐประกาศขึ้นบัญชีคว่ำบาตรจากเหตุจำกัดเสรีภาพของผู้ชุมนุมประท้วงในฮ่องกงเมื่อหลายปีก่อน เผยวันนี้ว่า ฮ่องกงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับเรือซูเปอร์ยอชท์สุดหรูของนายอเล็กซี มอร์ดาชอฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ตามมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวัน และฮ่องกงจะปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เท่านั้น ก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐได้ออกมาตำหนิรัฐบาลฮ่องกงที่อนุญาตให้เรือซูเปอร์ยอชท์สุดหรูของนายมอร์ดาชอฟที่ถูกชาติตะวันตกขึ้นบัญชีคว่ำบาตรจอดเทียบท่าในน่านน้ำฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งยังระบุว่า การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ฮ่องกงเผชิญกับความเสี่ยงด้านชื่อเสียง และถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสในด้านสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ทั้งนี้ นายมอร์ดาชอฟ วัย 57 ปี ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีและนักธุรกิจที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปูติน ถูกสหรัฐและสหภาพยุโรป หรืออียู ขึ้นบัญชีคว่ำบาตรหลังรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครน แต่ไม่ได้ถูกยูเอ็นประกาศคว่ำบาตรจากเหตุดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

พายุ “จูเลีย” ถล่มอเมริกากลาง ตาย 25 คน

เม็กซิโกซิตี 11 ต.ค. – เฮอริเคนจูเลีย (Julia) ที่อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันขณะพัดถล่มหลายประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางและทางตอนใต้ของเม็กซิโก ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกหนัก และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน นับถึงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทางการเอลซัลวาดอร์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากพายุจูเลีย 10 คน ซึ่งรวมถึงทหาร 5 นาย และได้สั่งอพยพประชาชนกว่า 1,000 คนออกจากพื้นที่แล้ว ขณะที่ทางการกัวเตมาลาระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 8 คนในวันอาทิตย์และวันจันทร์ มีผู้บาดเจ็บ 7 คน และมีผู้ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวหลายร้อยคน โดยที่ทางการของเอลซัลวาดอร์และกัวเตมาลาได้สั่งให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนในวันจันทร์ ในขณะเดียวกัน ทางการฮอนดูรัสรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 5 คน ในจำนวนนี้ มีผู้หญิง 1 คนที่เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์หลังถูกน้ำพัด รวมถึงเด็กชายวัย 4 ขวบที่เสียชีวิตจากเหตุเรือล่มใกล้พรมแดนนิการากัวเมื่อคืนวันเสาร์ ส่วนสำนักงานรับมือเหตุฉุกเฉินของปานามาระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คนจากเหตุฝนตกหนัก และต้องสั่งอพยพประชาชนราว 300 คนออกจากชุมชนที่อยู่ใกล้พรมแดนคอสตาริกา ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ หรือเอ็นเอชซี รายงานว่า พายุจูเลียได้พัดขึ้นชายฝั่งของนิการากัวที่ติดกับทะเลแคริบเบียนเมื่อวันอาทิตย์ก่อนเคลื่อนตัวสู่มหาสมุทรแปซิฟิก โดยอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ […]

ทั่วโลกประณามรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟของยูเครน

เคียฟ 11 ต.ค. – หลายประเทศทั่วโลกออกมาประณามรัสเซียจากการโจมตีหลายเมืองของยูเครนเมื่อวันจันทร์ ซึ่งรวมถึงการยิงจรวดโจมตีย่านใจกลางกรุงเคียฟของยูเครนเป็นครั้งแรก ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำต่างชาติที่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน หลังเกิดเหตุโจมตี กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายรุนแรงจากการทำสงครามที่ผิดกฎหมายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย พร้อมทั้งให้สัญญาว่าสหรัฐจะยังคงให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ยูเครนในการป้องกันตนเอง เช่น การสนับสนุนด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัย นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า เขารู้สึกตกใจอย่างยิ่งจากเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความรุนแรงของสงครามในครั้งนี้และทำให้พลเรือนจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างหนัก ส่วนสหภาพยุโรป หรืออียู กล่าวว่า รัสเซียเป็นผู้ก่ออาชญากรรมสงคราม ด้านนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า รัสเซียยังคงสร้างความหวาดกลัวและความโหดร้ายรุนแรง ขณะที่จีนกับอินเดีย ซึ่งไม่เคยออกแถลงการณ์ประณามการทำสงครามในยูเครนของรัสเซีย ได้ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียลดความรุนแรงของสงครามลง ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้เหตุระเบิดบนสะพานที่เชื่อมต่อรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันเสาร์ โดยที่ผู้นำรัสเซียอ้างว่าเป็นฝีมือของยูเครน ทั้งยังเตือนว่า เขาพร้อมที่จะสั่งการโจมตีรุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยูเครนไม่ได้ออกมายืนยันว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่สะพานดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางการยูเครนระบุว่า เหตุโจมตีกรุงเคียฟและหลายเมืองของยูเครนเมื่อวันจันทร์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก […]

“เซเลนสกี” ชี้รัสเซียตั้งเวลาโจมตียูเครนไว้ล่วงหน้าแล้ว

เคียฟ 10 ต.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า รัสเซียได้กำหนดเวลาโจมตียูเครนในวันนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อทำให้เกิดความสูญเสียมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในประชาชน รวมถึงตั้งเป้าทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนในวันนี้ว่า รัสเซียได้กำหนดเวลาโจมตียูเครนไว้ล่วงหน้า เพื่อมุ่งเป้าสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กับประชาชน รวมถึงต้องการสร้างความหวาดกลัว ความวุ่นวาย และทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ขณะที่ตำรวจของยูเครนระบุในแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กว่า เหตุระเบิดในย่านใจกลางกรุงเคียฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และบาดเจ็บ 12 คน ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮาล ของยูเครน ระบุว่า มีโครงสร้างพื้นฐาน 11 แห่งใน 8 แคว้นและกรุงเคียฟ ที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย นับถึงเวลา 11.00 น. ของวันนี้ ตามเวลาในยูเครน หรือตรงกับเวลา 15.00 น. ของวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย ขณะนี้มีพื้นที่บางแห่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว ทางการยูเครนจึงต้องเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ขาดไฟฟ้า น้ำดื่ม และปัญหาขัดข้องในการติดต่อสื่อสารเป็นการชั่วคราว ด้านผู้บัญชาการกองทัพยูเครนเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า กองทัพยูเครนได้ยิงสกัดจรวดอย่างน้อย 41 ลูก […]

อิหร่านขอให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเคารพกฎหมายอิสลาม

เตหะราน 10 ต.ค. – กระทรวงต่างประเทศของอิหร่านขอให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมายังอิหร่านเคารพกฎหมายอิสลาม ขณะที่ยังคงมีการประท้วงในอิหร่านเรื่องสตรีเสียชีวิตขณะอยู่ในการควบคุมของตำรวจอิหร่าน ซึ่งรัฐบาลอิหร่านโทษว่าเป็นฝีมือของศัตรูต่างชาติ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า อิหร่านเป็นประเทศที่ปลอดภัย ทางการอิหร่านขอให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมายังอิหร่านด้วยเหตุผลด้านการท่องเที่ยวหรือธุรกิจ เคารพต่อกฎหมายอิสลาม ก่อนหน้านี้ ทางการอิหร่านระบุว่า ได้จับกุมชาวต่างชาติจากยุโรปจำนวน 9 คน ในเดือนกันยายน เนื่องจากทั้งหมดมีส่วนร่วมในการก่อเหตุไม่สงบจากกรณีที่มาห์ซา อามินี หญิงชาวอิหร่าน วัย 22 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายน หลังถูกตำรวจศีลธรรมของอิหร่านควบคุมตัวในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 13 กันยายน โทษฐานไม่สวมฮิญาบ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎการแต่งกายตามหลักศาสนา สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บรรดาผู้นำของอิหร่านต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากเหตุชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เมืองซาเกซ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอามินี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 กันยายน โดยมีผู้ชุมนุมจำนวนมากระบุว่าเป็นยุคล่มสลายของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ทั้งนี้ เหตุประท้วงครั้งใหญ่ทั่วอิหร่านได้รับแรงสนับสนุนจากหลายประเทศทั่วโลก จนทำให้รัฐบาลอิหร่านออกมากล่าวโทษสหรัฐกับอิสราเอลเป็นผู้ฉวยโอกาสจากเหตุไม่สงบเพื่อมุ่งทำลายความมั่นคงของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน. -สำนักข่าวไทย

1 35 36 37 38 39 315