โคลัมโบ 11 ต.ค. – คณะรัฐมนตรีศรีลังกามีมติเห็นชอบข้อเสนอปรับให้ศรีลังกาลดสถานะเป็น ‘ประเทศที่มีรายได้ต่ำ’ จากเดิมที่เป็น ‘ประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ’ เพื่อให้ศรีลังกามีโอกาสเข้าถึงกองทุนช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศ
โฆษกของรัฐบาลศรีลังกาเผยวันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีศรีลังกาได้ลงมติเห็นชอบข้อเสนอปรับให้ศรีลังกาลดสถานะเป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำในบัญชีจำแนกสถานะประเทศตามระดับรายได้ของธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ จากเดิมที่เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศที่ระบุว่า การปรับลดสถานะเป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำจะทำให้ศรีลังกาเข้าถึงกองทุนช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2491 ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของศรีลังกา ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น การใช้นโยบายประชานิยมลดหย่อนภาษี และคำสั่งห้ามนำเข้าปุ๋ยเคมีนานถึง 7 เดือนเมื่อปีก่อนจนทำให้ภาคการเกษตรเสียหายหนัก จนทำให้ศรีลังกาขาดแคลนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเพื่อนำเข้าสินค้าจำเป็นต่าง ๆ เช่น อาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง และเวชภัณฑ์
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เศรษฐกิจของศรีลังกาในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้หดตัวสูงถึงร้อยละ 8.4 ขณะที่ธนาคารกลางของศรีลังกาคาดการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เศรษฐกิจศรีลังกาอาจหดตัวเพิ่มเป็นร้อยละ 8.7 ในปีนี้ ส่วนข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า ศรีลังกามีค่าจีดีพีต่อประชากรอยู่ที่ 3,815 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 145,600 บาท) ในปี 2564 และจัดเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ. -สำนักข่าวไทย