วอชิงตัน 12 ต.ค. – ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 ระบุว่า กลุ่มจี 7 จะสนับสนุนยูเครนต่อไปตราบนานเท่านาน หลังรัสเซียเปิดฉากยิงจรวดโจมตีหลายเมืองและกรุงเคียฟของยูเครนเมื่อวันจันทร์
กลุ่มจี 7 ซึ่งประกอบด้วยแคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า กลุ่มจี 7 จะยังคงสนับสนุนด้านการเงิน มนุษยธรรม กองทัพ และการทูตให้แก่ยูเครน และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างยูเครนต่อไปตราบนานเท่านาน แถลงการณ์ดังกล่าวของกลุ่มจี 7 ยังประณามประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่ลงนามอนุมัติการผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียโดยอ้างผลประชามติที่จัดขึ้นเอง ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้กลุ่มจี 7 สนับสนุนยูเครนในด้านการป้องกันภัยทางอากาศมากขึ้น รวมถึงภารกิจระหว่างประเทศบริเวณพรมแดนยูเครน-เบลารุส หลังจากที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปูติน ได้ยินยอมให้ทหารรัสเซียลงพื้นที่ประจำการบริเวณพรมแดนติดยูเครน โดยระบุว่าเป็นการป้องกันภัยคุกคามจากรัฐบาลยูเครน
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เผยกับซีเอ็นเอ็นในวันอังคารว่า ประธานาธิบดีปูตินเป็นคนที่ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล แต่กลับพลาดเรื่องแผนการที่คิดว่าจะบุกยูเครนได้สำเร็จ ทั้งยังระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินคงคาดว่ารัสเซียน่าจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากยูเครน เนื่องจากยูเครนเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ซึ่งเขามองว่าความคิดดังกล่าวเป็นการคาดการณ์ที่ผิดพลาด ด้านนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ระบุว่า นาโตจะยังคงยืนหยัดเคียงข้างยูเครนต่อไป พร้อมเผยว่า นาโตจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนอาวุธมากขึ้น เนื่องจากมีอาวุธลดน้อยลงจากการทำสงคราม ทั้งยังระบุว่า นาโตกำลังจับตาเฝ้าระวังเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียหลังจากที่ประธานาธิบดีปูตินได้ออกมาเปรยถึงเรื่องดังกล่าว แต่ในตอนนี้รัสเซียยังคงใช้การโจมตีในรูปแบบเดิม.-สำนักข่าวไทย