Arnat Sakdaronnarong

นิวเดลี 18 ต.ค. – เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์บรรทุกผู้แสวงบุญตกในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทางตอนเหนือของอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งลำ 6 คน ซึ่งรวมถึงนักบินด้วย 1 คน เจ้าหน้าที่ของอินเดียเผยว่า เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในพื้นที่ใกล้เมืองเกดาร์นาถในรัฐอุตตราขัณฑ์ ทำให้ผู้แสวงบุญ 5 คน และนักบิน 1 คน เสียชีวิตทั้งหมด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเดินหน้าปฏิบัติการกู้ภัย เฮลิคอปเตอร์ลำนี้กำลังออกเดินทางไปยังเมืองกุปตะกาชิในรัฐเดียวกัน แต่กลับประสบเหตุตกหลังขึ้นบินจากวัดเกดาร์นาถได้เพียงไม่นาน ทั้งยังระบุว่า ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าเฮลิคอปเตอร์ตกมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศย่ำแย่และทัศนวิสัยไม่ดี ในขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวีของอินเดียได้เผยแพร่ภาพจากจุดเครื่องบินตกที่แสดงให้เห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งลอยคลุ้งเป็นวงกว้าง ด้านรัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดียได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังระบุว่า ทางการอินเดียกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง. -สำนักข่าวไทย

มะนิลา 18 ต.ค. – มือปืนที่ก่อเหตุยิงนักข่าวชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจฟิลิปปินส์แล้ว โดยยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในแก๊งมือปืนรับจ้างสังหารนักข่าวคนดังกล่าว ทางการฟิลิปปินส์ ได้นำตัวนายโจเอล เอสโทเรียล วัย 39 ปี หนึ่งในสมาชิกแก๊งมือปืนรับจ้างที่ก่อเหตุยิงนายเพอร์ซิวัล มาบาซา นักข่าววิทยุชาวฟิลิปปินส์ วัย 63 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันนี้ หลังจากที่นายเอสโทเรียลได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวันจันทร์ ขณะที่นายรอย มาบาซา ซึ่งเป็นนักข่าวและน้องชายของนายเพอร์ซิวัล มาบาซา เผยกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า ตำรวจฟิลิปปินส์รู้ที่หลบซ่อนของนายเอสโทเรียลตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ และเกลี้ยกล่อมให้เขามอบตัวกับตำรวจ นายเอสโทเรียลอ้างว่า เขาได้รับจ้างวานให้ฆ่านายเพอร์ซิวัล มาบาซา จากบุคคลหนึ่งในเรือนจำนิวบิลิบิด ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุดสูงสุดของประเทศในเมืองมันทินลูปา บุคคลนี้ได้สั่งให้เขาและสมาชิกอีก 4 คนไปฆ่านายเพอร์ซิวัล มาบาซา แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าบุคคลดังกล่าวเป็นพลเรือนหรือนักโทษ ทั้งยังระบุว่า แก๊งของเขาได้รับเงินจ้างวานฆ่านายเพอร์ซิวัล มาบาซา ทั้งหมด 550,000 เปโซ (ราว 850,000 บาท) โดยได้รับเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง 140,000 เปโซ (ราว 216,500 […]

โตเกียว 18 ต.ค. – ห้องน้ำเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเกียวโตและมีอายุหลายร้อยปี ได้รับความเสียหาย หลังพนักงานของสำนักงานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมขับรถถอยหลังพุ่งชนประตูไม้ของห้องน้ำโดยไม่ตั้งใจ บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า พนักงานชาย วัย 30 ปี ของสำนักงานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเกียวโต ได้ขับรถถอยหลังพุ่งชนประตูไม้ของห้องน้ำเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นเสียหายโดยไม่ตั้งใจ ห้องน้ำดังกล่าวตั้งอยู่ในวัดโทฟุคุจิในเมืองเกียวโต พนักงานคนนี้ได้โทรแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ โดยที่ไม่มีผู้ใดอยู่ที่วัดดังกล่าวในช่วงเกิดอุบัติเหตุ และตัวเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ เอ็นเอชเคระบุว่า ห้องน้ำแห่งนี้ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น เนื่องจากได้รับการสร้างขึ้นในยุคมูโรมาจิเมื่อราว 500 ปีก่อนเพื่อให้พระบวชใหม่ใช้งาน ขณะที่เว็บไซต์ข่าวโซรานิวส์ 24 ของญี่ปุ่นรายงานว่า อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้ประตูไม้ 2 บานสูง 2 เมตรและเสาในห้องน้ำได้รับความเสียหาย ด้านหนังสือพิมพ์ซังเคชิมบุนของญี่ปุ่นลงภาพรถยนต์โตโยต้าจอดอยู่บนพื้นห้องน้ำที่รายล้อมไปด้วยเศษซากไม้ที่หักพังจากประตูห้องน้ำ ขณะที่นายโทชิโอะ อิชิกาวะ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยของวัดโทฟุคุจิ ระบุว่า เขารู้สึกตกใจอย่างยิ่งหลังทราบข่าวความเสียหายที่เกิดขึ้นกับห้องน้ำเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น แต่ก็โล่งใจที่รู้ว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

เกิดเหตุชายวัย 48 ปี ถูกผลักตกรางขณะรถไฟวิ่งเข้าเทียบชานชาลาที่สถานีรถไฟใต้ดินของสหรัฐ เมื่อเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังเขาชนชายอีกคนโดยไม่ตั้งใจ จนทำให้โทรศัพท์มือถือของชายคนนั้นตกลงไปในรางรถไฟ

มอสโก 18 ต.ค. – เครื่องบินรบของกองทัพรัสเซียตกย่านชุมชนทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และผู้บาดเจ็บ 25 คน กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเผยว่า เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดซุคฮอย ซู-34 (Sukhoi Su-34) ของกองทัพรัสเซียตกในย่านชุมชนของเมืองเยสก์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน เครื่องบินดังกล่าวเกิดไฟลุกไหม้ที่เครื่องยนต์เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นในขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมบิน โดยนักบินสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยก่อนเครื่องบินตก เครื่องบินลำนี้ตกใส่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งจนทำให้เกิดไฟไหม้ ขณะที่โรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้ละแวกดังกล่าวได้สั่งอพยพนักเรียนออกจากโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย ด้านสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานว่า เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และผู้บาดเจ็บ 25 คน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียได้สั่งให้หน่วยงานท้องถิ่นและรัฐบาลกลางเร่งช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเครื่องบินรบตกในครั้งนี้ และยังส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลลงพื้นที่เพื่อประสานงานร่วมกับศูนย์รับมือวิกฤต ส่วนคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียระบุว่า ได้ส่งพนักงานสืบสวนลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อสอบสวนในคดีอาญาแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำเช่นนั้น ทั้งนี้ เมืองเยสก์ตั้งอยู่ในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง โดยมีทะเลอาซอฟคั่นกลาง. -สำนักข่าวไทย

นครเซี่ยงไฮ้ของจีนสั่งปิดโรงเรียนและสถานบันเทิงหลายแห่งอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางการท้องถิ่นกำลังเร่งควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนถึงการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เนปิดอว์ 12 ต.ค. – ศาลเมียนมาตัดสินจำคุกนายโทรุ คุโบตะ นักข่าวและผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีชาวญี่ปุ่น เพิ่มอีก 3 ปี ในข้อหาละเมิดกฎหมายคนเข้าเมือง หลังจากที่เขาเพิ่งถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในข้อหาปลุกปั่นให้ขัดขืดอำนาจปกครอง และจำคุก 7 ปีในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์เมื่อสัปดาห์ก่อน หนังสือพิมพ์อาซาฮีของญี่ปุ่นรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามที่ใกล้ชิดศาลเมียนมาในวันนี้ว่า นายคุโบตะ วัย 26 ปี ถูกศาลสั่งจำคุกเพิ่มอีก 3 ปีในข้อหาละเมิดกฎหมายคนเข้าเมือง ก่อนหน้านี้  นายคุโบเพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปีในข้อหาปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง และจำคุก 7 ปีในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมโดยศาลที่ตั้งขึ้นในเรือนจำอินเส่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ นายคุโบตะถูกทางการเมียนมาควบคุมเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมขณะกำลังบันทึกภาพการประท้วงต่อต้านกองทัพในนครย่างกุ้ง กองทัพเมียนมาระบุว่า เขาใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเดินทางจากไทยเข้าเมียนมา และเข้าร่วมการประท้วงรวมทั้งสื่อสารกับผู้ประท้วงระหว่างที่บันทึกภาพเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังเคยรายงานเรื่องราวของชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ.-สำนักข่าวไทย

นิวเดลี 12 ต.ค. – อินเดียสั่งโรงงานของเมเดน ฟาร์มาซูติคัลส์ (Maiden Pharmaceuticals) บริษัทเวชภัณฑ์ของอินเดีย หยุดผลิตยาแก้ไอที่องค์การอนามัยโลกคาดว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของเด็ก 69 คนที่แกมเบีย ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก นายอนิล วิจ รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐหรยาณา ทางตอนเหนือของอินเดีย เผยว่า เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานของเมเดน ฟาร์มาซูติคัลส์ ที่ตั้งอยู่ในรัฐหรยาณา และพบว่าโรงงานแห่งนี้ได้ละเมิดข้อกำหนดแนวทางปฏิบัติงานรวมทั้งหมด 12 ข้อ ทางการท้องถิ่นจึงสั่งให้โรงงานหยุดการผลิตยาแก้ไอในทันที ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ผลการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการพบว่า ยา 4 ขนานที่ผลิตโดยเมเดน ฟาร์มาซูติคัลส์ ได้แก่ ยาแก้แพ้ (Promethazine Oral Solution) ยาแก้ไอชนิดน้ำ 2 ชนิด (Kofexmalin Baby Cough Syrup, Makoff Baby Cough Syrup) และยาลดไข้ชนิดน้ำ (Magrip N Cold Syrup) มีส่วนผสมของสารไดเอทิลีนไกลคอล (diethylene […]

กาฐมาณฑุ 12 ต.ค. – น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ทางตะวันตกของเนปาลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์อันนาปุรณะโพสต์ (Annapurna Post) ของเนปาลรายงานอ้างโฆษกสำนักงานตำรวจของเนปาลว่า จังหวัดกรณาลี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเนปาล เผชิญกับฝนตกหนักครั้งใหญ่ จนทำให้ทางการต้องอพยพประชาชนหลายพันคนออกจากพื้นที่ ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 คน ผู้สูญหายอย่างน้อย 22 คน และผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งยังระบุว่า ทางการเนปาลได้ระดมกำลังตำรวจลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและดินถล่มเพื่อช่วยเหลือประชาชนแล้ว และได้จัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์เพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในเขตสุรเขต แต่ก็เผชิญกับอุปสรรคด้านสภาพภูมิอากาศย่ำแย่ จนทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเนปาลก็ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้อยู่ในภูมิภาคที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและมีฝนตกต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินของเนปาลระบุว่า ระดับน้ำของแม่น้ำกรณาลีในบางพื้นที่ของจังหวัดกรณาลีได้เพิ่มสูงถึง 12 เมตร จนทำให้สะพานหลายแห่งถูกกระแสน้ำพัดหาย ส่วนหน่วยงานด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยว่า กำลังจัดส่งอาหารและเวชภัณฑ์ไปยังชุมชนในพื้นที่ทางตะวันตกของเนปาลที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม ทั้งนี้ เนปาลกำลังอยู่ในช่วงใกล้สิ้นสุดฤดูฝน ซึ่งปกติจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติของเนปาลระบุว่า เนปาลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 110 คนที่เชื่อมโยงกับอุทกภัยในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 12 ต.ค. – องค์การสำรวจอวกาศของญี่ปุ่น (JAXA) ระบุว่า ได้ตัดสินใจใช้คำสั่งระเบิดทำลายตัวเองของจรวด ‘เอปซิลอน’ (Epsilon) หลังประสบความล้มเหลวในการปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศในวันนี้ เนื่องจากพบปัญหาที่ทำให้จรวดไม่สามารถทำการบินได้อย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่องค์การสำรวจอวกาศของญี่ปุ่นกล่าวผ่านโทรทัศน์ในวันนี้ว่า องค์การสำรวจอวกาศของญี่ปุ่นได้ตัดสินใจใช้คำสั่งระเบิดทำลายตัวเองของจรวดเอปซิลอน เนื่องจากจรวดดังกล่าวไม่สามารถทำการบินได้อย่างปลอดภัย และอาจทำให้เกิดอันตรายได้ในกรณีที่ตกลงสู่พื้นโลก แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวในตอนนี้ จรวดเอปซิลอน ซึ่งไม่มีนักบินประจำการและอยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจครั้งที่ 6 ทำหน้าที่ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรโลกเพื่อทดสอบเทคโนโลยีด้านนวัตกรรม ทั้งนี้ องค์การสำรวจอวกาศของญี่ปุ่นตัดสินใจใช้คำสั่งระเบิดทำลายจรวดเอปซิลอนหลังจากที่ยิงจรวดขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ราว 10 นาที บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า การตัดสินใจทำลายจรวดเอปซิลอนถือเป็นความล้มเหลวในการยิงจรวดของญี่ปุ่นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งเป็นครั้งที่ญี่ปุ่นตัดสินใจยกเลิกการส่งดาวเทียมสอดแนมคู่เพื่อจับตาดูเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย