การตรวจหาเชื้อโควิดในเมียนมาหยุดชะงักหลังรัฐประหาร

ย่างกุ้ง 9 ก.พ. – การตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประชาชนเมียนมาต้องหยุดชะงักลง หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารที่ทำให้เกิดการต่อต้านด้วยวิธีการอารยะขัดขืนที่นำโดยคณะแพทย์และกลุ่มผู้ชุมนุมทั่วประเทศ ข้อมูลของทางการเมียนมาระบุว่า เมื่อวานนี้ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาในประชาชน 1,987 คน เป็นสถิติตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งที่เมื่อสัปดาห์ก่อนสามารถตรวจหาเชื้อได้สูงกว่าวันละ 9,000 คน และสูงกว่าวันละ 17,000 คนในช่วงก่อนเกิดเหตุรัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และตั้งแต่เกิดรัฐประหารก็มียอดตรวจหาเชื้อเฉลี่ยวันละ 9,350 คน ขณะที่เมื่อวานนี้เมียนมาพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพียง 4 คน ซึ่งลดลงอย่างมากจากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 420 คนในช่วงปลายเดือนก่อน อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขเมียนมาปฏิเสธให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว แต่ระบุในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า กระทรวงได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ทั้งยังเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนกลับไปปฏิบัติงานตามเดิมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ถือเป็นแนวหน้าในการประท้วงด้วยวิธีการอารยะขัดขืนที่ต่อต้านรัฐประหาร พวกเขาได้นัดกันหยุดงานเพื่อเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง และยอมรับผลชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ขณะนี้ เมียนมามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 31,100 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 141,000 คน […]

ออสเตรเลียไร้นักท่องเที่ยวเอเชียช่วงตรุษจีนเพราะโควิด

ซิดนีย์ 9 ก.พ. – เทือกเขาบลูเมาเทนส์ (Blue Mountains) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่เมืองคาทูมบาในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียมีบรรยากาศเงียบเหงาและแทบไม่มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่มักจะเดินทางมาที่นี่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หัวหน้าฝ่ายบริหารของซีนิคเวิลด์ (Scenic World) บริษัทผู้ให้บริการพาชมวิวทิวทัศน์เทือกเขาบลูเมาเทนส์กล่าวว่า ตามปกติแล้ว บรรยากาศของที่นี่จะเต็มไปด้วยความคึกคักในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทั่วทวีปเอเชีย แต่ในปีนี้กลับมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ในช่วงก่อนที่ออสเตรเลียจะใช้มาตรการปิดพรมแดนประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวเอเชียกลุ่มใหญ่ที่สุดคือ เกาหลีใต้ราว 250,000 คน จีน 230,000 คน ตามมาด้วยญี่ปุ่นและไต้หวัน และคาดว่าตลาดการท่องเที่ยวในประเทศไม่อาจชดเชยมูลค่ารายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวเอเชียกว่า 600,000 คนได้ ขณะที่เจ้าของบริษัทรถบัสนำเที่ยวชมเทือกเขาบลูเมาเทนส์เผยว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวเอเชียที่หายไปส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบธุรกิจในย่านนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับนครซิดนีย์ที่เป็นเมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักจะเดินทางมาเที่ยวที่ซีนิคเวิลด์ รับประทานอาหารในร้านอาหารท้องถิ่นหรือคาเฟ่ และบางคนก็พักค้างคืนที่บลูเมาเทนส์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย ออสเตรเลียใช้มาตรการปิดพรมแดนประเทศมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ยกเว้นพลเมืองและผู้พำนักอาศัยในออสเตรเลียที่เดินทางเข้าประเทศได้ แต่ต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 14 วันและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 28,860 คน และผู้เสียชีวิต 909 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ยานสำรวจของยูเออีจะเข้าสู่วงโคจรดาวอังคารวันนี้

ดูไบ 9 พ.ย. – ยานสำรวจโฮปของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีจะเดินทางเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นภารกิจสำรวจดาวอังคารเป็นประเทศแรกของโลกอาหรับ ยานสำรวจโฮปจะโคจรรอบดาวอังคารและส่งข้อมูลเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศกลับมายังโลก โดยตั้งเป้าที่จะได้ข้อมูลชั้นบรรยากาศที่สมบูรณ์ของดาวอังคารเป็นครั้งแรก เพื่อนำมาศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรายวันและตามฤดูกาล ซาราห์ อามิรี รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ขั้นสูงของยูเออีเผยว่า ภารกิจสำรวจดาวอังคารดังกล่าวใช้งบประมาณสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,000 ล้านบาท) ยูเออีประกาศแผนงานสำหรับภารกิจนี้ขึ้นในปี 2557 และเปิดตัวโครงการอวกาศแห่งชาติในปี 2560 เพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญในประเทศ เนื่องจากประชากรราว 9.4 ล้านคนของยูเออี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติยังขาดความรู้ด้านพื้นฐานวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเดินทางในอวกาศ ยูเออียังตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในการตั้งรกรากบนดาวอังคารให้ได้ภายในปี 2661 หรือในอีก 97 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ฮัซซา อัล-มันซูรี ถือเป็นนักบินอวกาศชาวยูเออีคนแรกที่ได้เดินทางขึ้นสู่อวกาศหลังเขาได้ไปปฏิบัติภารกิจที่สถานีอวกาศนานาชาติในเดือนกันยายนปีที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

จีนยืนยันอนุมัติจับกุมนักข่าวออสเตรเลีย

ปักกิ่ง 8 ก.พ. – จีนประกาศอนุมัติการจับกุมตัวเฉิง เหลย นักข่าวชาวออสเตรเลียของสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็นของจีนเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วยข้อหาเปิดเผยข้อมูลลับให้ต่างประเทศ นายวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนแถลงว่า สถาบันตุลาการของจีนได้พิจารณาคดีความตามกฎหมาย และลงความเห็นว่า เฉิงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข้อหาเปิดเผยข้อมูลลับให้ของรัฐให้แก่ต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย คำสั่งจับกุมตัวเธอจึงได้รับการอนุมัติตามกฎหมายกระบวนการพิจารณาความอาญาของจีนในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางการจีนจะดำเนินคดีความเป็นลำดับต่อไป แต่ในช่วงเวลานี้ สถาบันตุลาการของจีนจะเป็นผู้ดำเนินคดีตามกฎหมายและปกป้องสิทธิของเธออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ จีนหวังว่าออสเตรเลียจะไม่เข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดีความนี้ เฉิง เหลย วัย 45-46 ปี เกิดในจีน แต่ติดตามครอบครัวไปอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่เด็ก เธอจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ในปี 2538 และได้สัญชาติออสเตรเลียในปี 2546 มีลูกสาววัย 9 ขวบและ 11 ปี ทั้งคู่เดินทางไปเยี่ยมตายายในออสเตรเลียช่วงที่โรงเรียนในจีนหยุดการสอนเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะที่ทางการออสเตรเลียได้รับแจ้งจากทางการจีนในเดือนสิงหาคมปีก่อนว่า ได้ควบคุมตัวเธอไว้ . -สำนักข่าวไทย

โทรทัศน์เมียนมาเตือนจะดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย

สถานีโทรทัศน์ทางการเมียนมาเตือนว่า จะดำเนินการกับผู้ประท้วงที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ขณะที่ชาวเมียนมาจำนวนมากชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารเป็นวันที่สามแล้วในวันนี้

“ซูงะ” ยืนยันฉีดวัคซีนโควิดให้ชาวญี่ปุ่นทุกคน

โตเกียว 8 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่น ย้ำชัดว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ประชาชนทุกคน เนื่องจากวัคซีนเป็นปัจจัยสำคัญของการควบคุมการระบาด นายซูงะ กล่าวต่อคณะกรรมการในสภาผู้แทนราษฎรว่า เขาตระหนักดีในเรื่องที่มีคนมองว่า ญี่ปุ่นอนุมัติวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล่าช้ากว่าหลายประเทศตะวันตก ขอชี้แจงว่า ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมน้อยกว่าประเทศตะวันตกมาก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้การทดลองทางคลินิกจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะ นอกจากนี้ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกันในประชากรของแต่ละประเทศ การทดลองทางคลินิกกับชาวญี่ปุ่นจึงมีความจำเป็น ส่วนขั้นตอนอนุมัติวัคซีนที่ใช้เวลานาน เป็นผลมาจากการที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ต้องการพิจารณาให้แน่ใจว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจริง ๆ ขณะเดียวกัน นายโคโนะ ทาโร รัฐมนตรีกำกับดูแลด้านการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่น เผยว่า รัฐบาลอาจเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ ให้แก่กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงก่อนในช่วงกลางเดือนนี้ และตามมาด้วยกลุ่มผู้สูงวัย ในเดือนเมษายน ขณะนี้ญี่ปุ่นมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 403,400 คน และผู้เสียชีวิตราว 6,330 คน. -สำนักข่าวไทย

ฮุนได-เกียเลิกคุยกับแอปเปิลเรื่องรถขับเคลื่อนเองแล้ว

โซล 8 ก.พ.- ฮุนไดมอเตอร์และเกีย บริษัทยานยนต์ใหญ่ของเกาหลีใต้เผยว่า ได้ยุติการเจรจากับแอปเปิลอิงก์ บริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ของสหรัฐแล้วเรื่องผลิตยานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเอง หลังจากยืนยันได้เพียงหนึ่งเดือนว่ากำลังเจรจากันในขั้นต้น ฮุนไดและเกียแถลงวันนี้ตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องชี้แจงข่าวลือในตลาดให้นักลงทุนทราบว่า บริษัทได้รับคำเชิญชวนจากบริษัทหลายแห่งเรื่องร่วมกันพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเอง แต่ทั้งหมดยังอยู่ในขั้นต้น ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ และขณะนี้ไม่ได้เจรจากับแอปเปิลในเรื่องนี้ การประกาศดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของฮุนไดร่วงลงร้อยละ 6.2 มูลค่าตลาดหายไปทันที 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 90,120 ล้านบาท) ส่วนราคาหุ้นของเกียคอร์ป บริษัทในเครือร่วงไปถึงร้อยละ 15 มูลค่าตลาดหายไป 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 165,230 ล้านบาท) ขณะเดียวกันเป็นการปิดฉากความแตกแยกที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์ภายในกลุ่มฮุนไดมอเตอร์ บริษัทแม่ของฮุนไดและเกียเรื่องการร่วมมือกับแอปเปิลอิงก์ ผู้บริหารบางคนกังวลว่า ฮุนไดจะกลายเป็นผู้รับจ้างผลิตเท่านั้น เหมือนฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าไต้หวันที่รับจ้างผลิตอุปกรณ์ให้แอปเปิลอย่างโทรศัพท์ไอโฟน หุ้นของเกียพุ่งขึ้นร้อยละ 61 หลังจากฮุนไดยืนยันรายงานข่าวเมื่อต้นเดือนมกราคมว่า แอปเปิลและฮุนไดกำลังหารือเรื่องพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเองภายในปี 2570 และพัฒนาแบตเตอรีที่โรงงานของฮุนไดหรือเกียในสหรัฐ ล่าสุดสื่อหลายแห่งรวมทั้งสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเจรจาใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว สื่อเกาหลีใต้แห่งหนึ่งถึงระบุว่า ทั้งสองฝ่ายเตรียมลงนามกันในวันที่ 17 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นคัดค้านจีนส่งเรือ 2 ลำรุกล้ำน่านน้ำหมู่เกาะพิพาท

โตเกียว 8 ก.พ. – ญี่ปุ่นคัดค้านที่จีนส่งเรือยามฝั่ง 2 ลำรุกล้ำน่านน้ำญี่ปุ่นใกล้หมู่เกาะเซนกากุ หรือที่จีนเรียกว่าเตียวหยู หลังจากรัฐบาลจีนออกกฎหมายเข้มงวดขึ้นต่อการละเมิดอาณาเขตทางทะเลของตน นายคัตสึโนบุ คาโต โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นได้ประท้วงอย่างแข็งขันผ่านช่องทางทางการทูตทั้งในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นและในกรุงปักกิ่งของจีน ในเรื่องที่จีนส่งเรือยามฝั่ง 2 ลำเข้ามาในน่านน้ำญี่ปุ่นใกล้หมู่เกาะเซนกากุเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องการให้เรือจีนหยุดความพยายามที่จะเข้าใกล้เรือประมงญี่ปุ่นในทันที และออกจากน่านน้ำดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เขายังระบุเพิ่มเติมว่า เรือยามฝั่งของญี่ปุ่นได้ส่งสัญญาณเตือนหลายครั้งให้เรือจีนล่าถอยกลับไป ควบคู่ไปกับการป้องกันความปลอดภัยของเรือประมงญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นจะไม่อดทนกับการกระทำเช่นนี้อีกต่อไป ทั้งนี้ จีนมักส่งเรือยามฝั่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นกรณีพิพาทนับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้ารับตำแหน่งผู้นำจีน และต้องการทำให้จีนเป็นประเทศมหาอำนาจทางทะเล นอกเหนือไปจากข้อพิพาททางดินแดนกับญี่ปุ่นแล้ว จีนยังอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ทับซ้อนกับบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนามที่อ้างสิทธิบางส่วน ขณะที่ในปีที่ผ่านมาจีนส่งเรือเข้าไปประจำการในน่านน้ำของเกาะเล็กเกาะน้อยต่าง ๆ รวมทั้งหมด 333 วัน ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์. -สำนักข่าวไทย

ตำรวจเมียนมาฉีดน้ำใส่กลุ่มต้านรัฐประหาร

เนปิดอว์ 8 ก.พ. – ตำรวจเมียนมาในกรุงเนปิดอว์ ฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านเหตุรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน และทำให้นางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกจับตัวไป รอยเตอร์รายงานว่า ได้รับคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพตำรวจเมียนมาฉีดน้ำสลายกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารหลายหมื่นคนที่รวมตัวกันเป็นวันที่สาม และทำให้มีผู้ประท้วงบางส่วนได้รับบาดเจ็บจากการล้มกระแทกพื้น เนื่องจากน้ำที่ฉีดมามีแรงดันสูง ผู้ประท้วงหลายคนต่างพากันตะโกนให้ตำรวจหยุดการกระทำดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามว่า ทำไมตำรวจถึงกับต้องฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ชุมนุมกันอย่างสันติ ในเวลาต่อมาตำรวจเมียนมามีท่าทีหยุดฉีดน้ำแล้วหลังกลุ่มผู้ประท้วงพากันเรียกร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว และมีผู้ประท้วงบางคนนำดอกไม้ไปมอบให้ตำรวจเมื่อกลับมารวมตัวชุมนุมได้อีกครั้ง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งกล่าวกับรอยเตอร์ว่า มีผู้ประท้วงบางคนได้รับบาดเจ็บจากแรงฉีดน้ำที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ และการชุมนุมก็ยังคงดำเนินต่อไปได้แม้ว่าจะมีการฉีดน้ำใส่ก็ตาม ทั้งนี้ การชุมนุมต้านรัฐประหารที่เกิดขึ้นยังคงดำเนินต่อไปอย่างสันติ และไม่รุนแรงจนเกิดเหตุนองเลือดเหมือนกับการชุมนุมทั่วประเทศในปี 2529 และ 2550 แต่การที่ทางการประจำกำลังตำรวจมากขึ้นทำให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปได้. -สำนักข่าวไทย

พระสงฆ์เมียนมาร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร

พระสงฆ์เมียนมากลุ่มหนึ่งเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมืองย่างกุ้งที่มีการชุมนุมติดต่อกันเป็นวันที่สามแล้วในวันนี้

ธารน้ำแข็งชนเขื่อนแตกในอินเดีย พบแล้ว 14 ศพ

เหตุธารน้ำแข็งแตกและไหลชนเขื่อนเมื่อวานนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คนแล้ว ขณะที่ทหารอินเดียหลายร้อยนายลงพื้นที่แถบเทือกเขาหิมาลัยเพื่อค้นหาผู้สูญหายอย่างน้อย 125 คน

ออสเตรเลียมั่นใจวัคซีนอังกฤษได้ผล แม้แอฟริกาใต้ระงับ

แคนเบอร์รา 8 ก.พ.- ออสเตรเลียมั่นใจว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาได้ผล หลังจากแอฟริกาใต้ระงับการฉีดเพราะมีประสิทธิภาพจำกัดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่าวัคซีนของแอสตราเซนเนกาหรือของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการฉีดวัคซีนเพื่อปกป้องชีวิตผู้คน รอยเตอร์คาดการณ์ว่า ออสเตรเลียจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนของแอสตราเซนเนกาในอีกไม่กี่วัน หลังจากอนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์ไปเมื่อเดือนก่อนและเตรียมจะใช้ในเดือนนี้ อย่างไรก็ดี ความสำเร็จในการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนฝากไว้กับวัคซีนของแอสตราเซนเนกา เนื่องจากออสเตรเลียสั่งไว้ 53 ล้านโดส ส่วนใหญ่จะผลิตในประเทศ ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์ได้รับแล้วไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศเกือบ 26 ล้านคน รอยเตอร์มองด้วยว่า ออสเตรเลียไม่ถูกกดดันให้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนมากนัก เนื่องจากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี วันนี้แจ้งพบผู้ป่วยใหม่ในประเทศเพียงรายเดียว ยอดผู้ป่วยสะสมกว่า 28,800 คน เสียชีวิต 909 คน แอฟริกาใต้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซนเนกาโดยอ้างข้อมูลว่า ลดการป่วยปานกลางถึงป่วยหนักจากการติดเชื้อปรับปรุงสายพันธุ์ 501Y.V2 ได้เพียงร้อยละ 22 เท่านั้นเมื่อเทียบกับวัคซีนหลอก เป็นเชื้อที่ทำให้แอฟริกาใต้เกิดการระบาดระลอกสองตั้งแต่ปลายปีก่อน ทั้งที่ก่อนหน้าเชื้อนี้จะระบาดในวงกว้าง วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพราวร้อยละ 75.-สำนักข่าวไทย

1 284 285 286 287 288 315