สหรัฐอนุมัติฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามในกลุ่มเสี่ยง-ผู้สูงวัย

วอชิงตัน 23 ก.ย. – สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ อนุมัติฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มที่สามของไฟเซอร์/ไบออนเทคเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง และผู้ที่ต้องทำงานในพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับเชื้อไวรัสเป็นประจำ การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้สหรัฐเปิดโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่สามได้เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ และสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนหลายล้านคนที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสมาเป็นเวลาเกินกว่า 6 เดือน ขณะที่แจเน็ต วูดค็อก รักษาการหัวหน้าคณะกรรมาธิการของเอฟดีเอ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า การเปลี่ยนแปลงคำสั่งจากเดิมที่เอฟดีเออนุมัติฉีดวัคซีนเข็มที่สามเป็นกรณีฉุกเฉินจะทำให้กลุ่มคนต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข คุณครู พนักงานดูแลเด็ก พนักงานร้านขายของ ผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์คนไร้บ้าน หรือนักโทษ มีสิทธิได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ด้าน นพ. วิลเลียม ชาฟเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของมูลนิธิโรคติดต่อแห่งชาติ หรือเอ็นเอฟไอดี กล่าวว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของเอฟดีเอจะทำให้เกิดความครอบคลุมในกลุ่มผู้มีสิทธิเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามมากขึ้นเมื่อเทียบกับคำแนะนำก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้ ไฟเซอร์ได้ขอให้เอฟดีเอพิจารณาอนุมัติฉีดวัคซีนเข็มที่สามในกลุ่มคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และยื่นเอกสารให้คณะที่ปรึกษาของเอฟดีเอ ซึ่งเป็นคณะกรรมการอิสระ เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่า ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนนั้นลดลงเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ดี คณะที่ปรึกษามีมติคัดค้านการฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้ประชาชนทุกคน แต่ระบุว่ามีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่สามมีประโยชน์ในกลุ่มผู้สูงวัยและผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อสูง.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจเมลเบิร์นยิงกระสุนพริกไทยสลายกลุ่มต่อต้านฉีดวัคซีนโควิด

เมลเบิร์น 21 ก.ย. – ตำรวจนครเมลเบิร์นของออสเตรเลียใช้กระสุนพริกไทยและกระสุนยางสลายกลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคนที่ฝ่าฝืนคำสั่งอยู่แต่ในบ้านด้วยการออกมารวมตัวกันสร้างความเสียหาย ปิดกั้นทางด่วน และทำร้ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย ในขณะที่ตำรวจจับกุมผู้ชุมนุมได้กว่า 40 คน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วันนี้เป็นวันที่สองที่เกิดเหตุชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ในนครเมลเบิร์น หลังทางการรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีนครเมลเบิร์นเป็นเมืองเอก สั่งปิดสถานที่ก่อสร้างเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยระบุว่า การเดินทางของแรงงานก่อสร้างทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นายเชน แพตตัน ผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิกตอเรีย กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เหตุประท้วงดังกล่าวถือเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างมากและเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของออสเตรเลียและสื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพากันเดินขบวนบนท้องถนน จุดพลุควัน ร้องเพลง และทำลายรถตำรวจ โดยที่มีตำรวจม้าและเจ้าหน้าที่สวมชุดปราบจลาจลล้อมรอบ กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีเพียงแรงงานก่อสร้าง แต่ยังมีผู้ต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีนและการขยายคำสั่งล็อกดาวน์รัฐวิกตอเรีย โดยได้ประณามทั้งวัคซีน นายแดเนียล แอนดรูวส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย และแกนนำสหภาพแรงงานที่สนับสุนนการฉีดวัคซีน นายแอนดรูว์ระบุว่า การกระทำที่รุนแรงและขัดขวางคำสั่งของทางการไม่ช่วยให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ลดลง แต่กลับทำให้เชื้อไวรัสโคโรนาแพร่กระจายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คำสั่งปิดสถานที่ก่อสร้างมีขึ้นหลังเกิดการประท้วงต่อต้านคำสั่งฉีดวัคซีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อวันจันทร์ โดยที่รัฐวิกตอเรียกำหนดให้แรงงานก่อสร้างทุกคนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดภายในสัปดาห์นี้. -สำนักข่าวไทย

ตาลีบันจะให้เด็กหญิงอัฟกันกลับไปเรียนหนังสือโดยเร็ว

คาบูล 21 ก.ย.- รัฐบาลตาลีบันของอัฟกานิสถานประกาศวันนี้ว่า จะให้เด็กหญิงอัฟกันกลับไปเรียนหนังสือโดยเร็วที่สุด  หลังจากถูกตำหนิเรื่องกลับมาปกครองประเทศแล้วกีดกันเด็กหญิงและสตรีไม่ให้ใช้ชีวิตสาธารณะได้ตามปกติ กระทรวงศึกษาธิการอัฟกานิสถานออกคำสั่งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ครูชายและนักเรียนชายระดับมัธยมศึกษากลับไปโรงเรียนได้อีกครั้ง แต่ไม่ได้พูดถึงครูหญิงและนักเรียนหญิง โฆษกตาลีบันแถลงวันนี้ว่า กำลังหาข้อสรุปเรื่องให้นักเรียนหญิงกลับไปโรงเรียน และจะทำให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างไรก็ดี จะต้องทำให้สภาพแวดล้อมในการเรียนมีความปลอดภัยเสียก่อน โฆษกตาลีบันยังได้ใช้โอกาสนี้แถลงรายชื่อรัฐมนตรีที่ยังคั่งค้างอยู่ หลังจากประกาศรายชื่อเบื้องต้นไปเมื่อต้นเดือนนี้ ปรากฏว่าเป็นคณะรัฐมนตรีชายล้วนทั้งชุด และไม่มีการพูดถึงกระทรวงกิจการสตรีที่ถูกยุบไปด้วย ส่วนเรื่องที่ลูกจ้างรัฐบาลจำนวนมากร้องเรียนว่า ไม่ได้รับเงินเดือนมาหลายเดือนแล้วในยามที่ค่าครองชีพสูงขึ้น โฆษกตาลีบันยืนยันว่า ทางการมีเงินงบประมาณ แต่ต้องใช้เวลาในการดำเนินกระบวนการต่าง ๆ รัฐบาลตาลีบันยังไม่ได้ออกนโยบายอย่างเป็นทางการเรื่องห้ามสตรีทำงาน แต่คำสั่งของเจ้าหน้าที่หลายคนมีผลกีดกันสตรีแล้ว รักษาการนายกเทศมนตรีกรุงคาบูลประกาศจ้างผู้ชายทำงานในเทศบาลแทนสตรีที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ทั้งที่ช่วง 20 ปีมานี้ สตรีอัฟกานิสถานออกมาทำงานจำนวนมาก หลายคนเป็นกำลังหลักของครอบครัว เนื่องจากสามีตายหรือพิการจากสงครามที่เกิดขึ้นตั้งแต่สหรัฐบุกโค่นตาลีบันในปี 2544.-สำนักข่าวไทย

หมู่เกาะของสเปนยังคงอพยพชาวบ้านหนีภูเขาไฟปะทุ

ลาปาลมา 21 ก.ย. – เจ้าหน้าที่บนหมู่เกาะคานารีของสเปนอพยพชาวบ้านในเมืองเอลปาโซบนเกาะลาปาลมา หลังจากภูเขาไฟปะทุพ่นลาวาเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ และจะแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมปรากฏการณ์ดังกล่าวถอยห่างออกจากพื้นที่เกิดเหตุ นายกเทศมนตรีเมืองเอลปาโซกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า ทางการได้อพยพชาวบ้านในเมืองทากันเดอัลโตในช่วงค่ำวันจันทร์และช่วงเช้ามืดวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังธารลาวาใหม่ไหลออกมาจากรอยแตกอีกจุดบนเนินภูเขาไฟกุมแบร วิเอคา ธารลาวาที่คาดว่าจะไหลลงสู่ทะเลมีเส้นทางที่ไม่แน่นอนและเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิม ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของหมู่เกาะคานารีรายงานว่า มีประชาชนราว 6,000 คนจากทั้งหมด 80,000 คนที่ต้องอพยพออกจากบ้านเพื่อหนีภูเขาไฟระเบิด ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว แต่ธารลาวาได้ทำลายพื้นที่ไปราว 640 ไร่และมีบ้านเรือนเสียหาย 166 หลังนับถึงช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ส่วนผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า ถ้าธารลาวาไหลลงทะเล อาจทำให้เกิดการระเบิดและกลุ่มควันจากก๊าซพิษมากขึ้น ภูเขาไฟกุมแบร วิเอคาปะทุขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ หลังเกาะลาปาลมา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุดของหมู่เกาะคานารี เกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งในช่วงหลายวันก่อนหน้านั้น โดยที่ภูเขาไฟกุมแบร วิเอคาได้ปะทุพ่นลาวาสูงหลายร้อยเมตรขึ้นสู่อากาศจนตกลงไปพื้นที่ป่าไหม้หลายแห่ง และทำให้เกิดธารลาวาที่กำลังไหลลงมหาสมุทรในพื้นที่ที่มีประชาชนเบาบางของเกาะลาปาลมา. -สำนักข่าวไทย

เผยประชากรโคอาลาในออสเตรเลียลดลง 30%

เมลเบิร์น 21 ก.ย. – มูลนิธิโคอาลาออสเตรเลียเผยวันนี้ว่า ออสเตรเลียมีประชากรโคอาลาลดลงร้อยละ 30 ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากภัยแล้ง ไฟป่า และการตัดไม้ทำลายป่า จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียออกกฎหมายเพื่อปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยของโคอาลา มูลนิธิโคอาลาออสเตรเลียระบุว่า ประชากรโคอาลาในออสเตรเลียมีไม่ถึง 58,000 ตัวในปีนี้ ลดลงจากที่มีกว่า 80,000 ตัวในปี 2561 โดยที่รัฐนิวเซาท์เวลส์เป็นรัฐที่มีประชากรโคอาลาลดลงมากที่สุดถึงร้อยละ 41 ขณะที่เดโบราห์ ทาบาร์ต ประธานมูลนิธิโคอาลาออสเตรเลีย เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เนื่องจากไม่มีพื้นที่ใดในออสเตรเลียมีแนวโน้มพบประชากรโคอาลาเพิ่มสูงขึ้น มีเพียงพื้นที่เดียวที่มีโคอาลามากกว่า 5,000 ตัว และในบางภูมิภาคมีโคอาลาเพียง 5 หรือ 10 ตัว ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ออสเตรเลียจำเป็นต้องมีกฎหมายคุ้มครองโคอาลาก่อนที่สถานการณ์อาจเลวร้ายไปกว่านี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตะวันตกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่ประสบปัญหาภัยแล้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนทำให้เกิดผลกระทบหลายอย่าง เช่น แม่น้ำแห้งขอดเป็นเวลาหลายปี และต้นยูคาลิปตัสที่เป็นแหล่งอาหารหลักของโคอาลาล้มตาย รัฐบาลออสเตรเลียประกาศตั้งแต่เดือนมิถุนายน ให้ประชาชนแสดงความเห็นเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูระดับชาติในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐควีนส์แลนด์ และดินแดนออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรีรอบกรุงแคนเบอร์รา รวมถึงความเห็นเกี่ยวกับการยกสถานะของโคอาลาขึ้นจากสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (threatened species) เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (vulnerable species) หรือสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ […]

รัฐสภาญี่ปุ่นกำหนดวันเลือกนายกฯ แล้ว

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีมติวันนี้ว่า รัฐสภาหรือสภาไดเอทจะเปิดประชุมวิสามัญเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 4 ตุลาคม ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปภายในเดือนพฤศจิกายน

เรียกร้องสิงคโปร์บังคับฉีดวัคซีนโควิดหลังยอดติดเชื้อเพิ่ม

ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขบางคนในสิงคโปร์เรียกร้องให้ทางการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังจากพบผู้ติดเชื้ออาการหนักในกลุ่มผู้สูงอายุไม่ฉีดวัคซีน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพราะอัตราการฉีดคงที่

ฟิลิปปินส์หนุนสนธิสัญญา “AUKUS” เพื่อตอบโต้จีน

ฟิลิปปินส์กล่าวสนับสนุนความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ หรือออคัส (AUKUS) ระหว่างสหรัฐ อังกฤษ และออสเตรเลีย โดยหวังว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยคานอำนาจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นความเห็นที่ขัดแย้งกับเพื่อนบ้านบางประเทศ

อินเดียจะกลับมาส่งออกวัคซีนโควิดอีกครั้ง

นิวเดลี 21 ก.ย.- อินเดียจะกลับมาส่งออกวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อีกครั้งตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ หลังจากระงับการส่งออกไปตั้งแต่เดือนเมษายนเพื่อรองรับความต้องการในประเทศ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก นายมันสุข มัณฑวิยา รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดียเผยกับสื่อว่า ผู้ผลิตวัคซีนในอินเดียจะผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้มากกว่า 300 ล้านโดสในเดือนตุลาคมสำหรับใช้ในประเทศ และหากเกินความต้องการก็จะส่งออกไปประเทศอื่นเพื่อใช้ต่อสู้กับโรคโควิด-19 อินเดียจะช่วยโลกและทำตามที่รับปากไว้ผ่านโครงการโคแวกซ์ที่นำโดยองค์การอนามัยโลก ส่วนในเดือนกันยายนนี้คาดว่าผู้ผลิตในประเทศจะผลิตให้รัฐบาลอินเดียได้ 260 ล้านโดส รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดียเผยเรื่องนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียเดินทางไปกรุงวอชิงตันของสหรัฐในวันนี้ เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มควอด (Quad) กับสหรัฐ ญี่ปุ่นและออสเตรเลียแบบพบหน้ากันครั้งแรกในวันที่ 24 กันยายนนี้ตามเวลาสหรัฐ คาดกันว่าที่ประชุมจะหารือเรื่องการส่งออกวัคซีนของอินเดียที่เคยส่งออกมากกว่า 60 ล้านโดสไปยัง 76 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนของออกซ์ฟอร์ด/แอสตราเซนเนกาที่ผลิตในชื่อโควิชีลด์ (Covishield) แต่อินเดียได้ระงับการส่งออกเมื่อเกิดการระบาดระลอก 2 ในเดือนเมษายน ทำให้ประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาได้รับผลกระทบหนัก ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในอินเดียขณะนี้ มีผู้ได้รับเข็มแรกไปแล้วมากกว่า 609 ล้านคน เกินครึ่งหนึ่งของผู้เข้าเกณฑ์ฉีดวัคซีน แต่มีผู้ได้รับครบ 2 เข็มแล้วเพียงร้อยละ 21 ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 33 […]

ผู้นำออสเตรเลียจะไม่คุยกับผู้นำฝรั่งเศสนอกรอบประชุมยูเอ็น

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียเผยว่า จะไม่พบสนทนากับประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศส นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ในสัปดาห์นี้ หลังจากออสเตรเลียทำให้ฝรั่งเศสไม่พอใจที่ยกเลิกข้อตกลงต่อเรือดำน้ำ

เวียดนามสั่งซื้อวัคซีนโควิดของคิวบา 10 ล้านโดส

รัฐบาลคิวบาระบุเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เวียดนามได้ลงนามในข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่คิวบาผลิตเองชื่อ ‘อับดาลา’ จำนวน 10 ล้านโดส หลังเวียดนามอนุมัติใช้เป็นการฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์

พรรครัฐบาลแคนาดาชนะเลือกตั้งสภา แต่ไม่ได้เสียงข้างมาก

พรรคเสรีนิยมของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาที่จัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น แต่ไม่ได้ครองเสียงข้างมากตามที่หวังไว้

1 187 188 189 190 191 315