ชัวร์ก่อนแชร์: Pfizer เผยไวรัส hMPV เกิดจากวัคซีนโควิด จริงหรือ?

06 มีนาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่า Pfizer บริษัทผู้ผลิตยายอมเปิดเผยข้อมูลอาการข้างเคียงจากวัคซีนโควิด-19 เป็นครั้งแรก โดยหนึ่งในอาการข้างเคียงที่ระบุในเอกสารของ Pfizer ก็คือการติดเชื้อไวรัส hMPV ที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งพบการระบาดอย่างมากในสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่ใช่ อาการข้างเคียง หลักฐานที่อ้างว่า Pfizer เปิดเผยอาการข้างเคียงจากวัคซีนโควิด-19 แท้จริงแล้วคือรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (Adverse Events) ภายหลังการรับวัคซีนโควิด-19 ที่ Pfizer นำเสนอต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) เมื่อปี 2021 ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ตามที่กล่าวอ้างทางออนไลน์ รายงานดังกล่าวมาจากการสำรวจเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ 42,086 ครั้งที่เกิดกับผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer ในช่วงเดือนธันวาคม 2020 ถึง […]

ชัวร์ก่อนแชร์: แมงมุมบราซิลกัด องคชาตแข็งตัว 4 ชั่วโมง จริงหรือ?

05 มีนาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลที่อาจสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศชายเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการอ้างว่า หากถูกแมงมุมสายพันธุ์พื้นเมืองในประเทศบราซิลกัด จะทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 4 ชั่วโมง บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : แมงมุมสายพันธุ์ดังกล่าวมีชื่อว่า Phoneutria Nigriventer เป็นแมงมุมที่พบได้ในแถบตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ รู้จักในชื่อ Brazilian Wandering Spiders ส่วนอาการแข็งตัวขององคชาตที่อ้างว่าเกิดจากการถูกแมงมุม Phoneutria กัด แท้จริงแล้วคือภาวะองคชาตแข็งค้าง (Priapism) เป็นหนึ่งในอาการที่เกิดจากพิษของแมงมุม Phoneutria ซึ่งจะทำให้อวัยวะเพศชายมีอาการแข็งเกร็งเป็นเวลานานและสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก อาจไปสู่การตายของเนื้อเยื่อในกล้ามเนื้อขององคชาตได้อีกด้วย พิษจากแมงมุม Phoneutria ยังส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งอาการเจ็บปวดบริเวณที่ถูกกัด เกิดภาวะหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง วิงเวียนศีรษะ มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน สูญเสียการมองเห็น หายใจลำบาก […]

ชัวร์ก่อนแชร์: อสุจิชายทั่วโลกจะเป็น 0 ในปี 2050 จริงหรือ?

28 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศชายเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการอ้างว่าปริมาณอสุจิของชายทั่วโลกจะหมดไปในปี 2050 หลังมีงานวิจัยที่พบว่าปริมาณอสุจิของผู้ชายลดลงจาก 50 ปีที่แล้วถึง 62% บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ข้ออ้างดังกล่าว นำมาจากงานวิจัยปี 2023 เผยแพร่ทางวารสาร Human Reproduction Update เป็นการวิเคราะห์อภิมานและการปริทัศน์อย่างเป็นระบบเกี่ยวกับการสำรวจปริมาณอสุจิของเพศชายตั้งแต่ปี 1973-2018 จากตัวอย่าง 14,000 ตัวอย่าง ผลสำรวจพบว่าค่าเฉลี่ยจำนวนอสุจิทั้งหมด (Total Sperm Count) ของผู้ชายในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และออสเตรเลียเมื่อปี 1973 อยู่ที่ 335.7 ตัว ส่วนค่าเฉลี่ยจำนวนอสุจิทั้งหมดของผู้ชายในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และออสเตรเลียเมื่อปี 2018 อยู่ที่ 126.6 ตัว […]

ชัวร์ก่อนแชร์: หยุดหลั่งอสุจิ 7 วันเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย จริงหรือ?

26 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศชายเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อความเชื่อว่าการละเว้นจากกิจกรรมทางเพศเพื่อป้องกันการหลั่งอสุจิเป็นเวลา 7 วัน จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน Testosterone ฮอร์โมนเพศชายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อในร่างกายได้ถึง 45% บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Semen Retention หรือความเชื่อเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพจากการละเว้นจากการหลั่งน้ำอสุจิ ถือเป็นหนึ่งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับสุขภาพของเพศชายที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลายมากที่สุด ตามการสำรวจในงานวิจัยที่เผยแพร่ทางวารสาร International Journal of Impotence Research เมื่อปี 2022 โดยพบว่าเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในกลุ่มชายที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ในสหรัฐอเมริกายังมีกระแสทางออนไลน์ที่เรียกว่า Nofap ซึ่งเผยแพร่มาจากกระทู้ในเว็บไซต์ Reddit เมื่อปี 2011 โดยรณรงค์ให้ผู้ชายละเว้นจากการสำเร็จความใคร่เป็นเวลา 90 วัน จุดประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้ชายบำบัดอาการเสพติดการดูหนังผู้ใหญ่มากเกินไป ก่อนจะขยายผลเป็นการละเว้นการหลั่งอสุจิเพื่อสุขภาพ โดยอ้างว่าจะเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมน Testosterone หนึ่งในข้ออ้างคือการอ้างอิงงานวิจัยปี 2003 ซึ่งเปรียบเทียบระดับฮอร์โมน […]

ปัจจัยองคชาตไม่แข็งตัว

24 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ปัญหาองคชาตไม่แข็งตัวหรือภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction หรือ ED) เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเพศชายทั่วโลก ข้อมูลการสำรวจในสหรัฐฯ พบว่า มีชายชาวอเมริกันอายุมากกว่า 20 ปีประมาณ 18-30 ล้านราย ที่ประสบปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัวจากปัจจัยต่าง ๆ ปัจจัยจากความผิดปกติทางกาย ปัจจัยทางกายที่ส่งผลต่อการแข็งตัวขององคชาต คือปัญหาการไหลเวียนของเลือดที่รู้จักในชื่อภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) เมื่อหลอดเลือดแดงตีบตันจากการจับตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทำได้ไม่ดี เช่นเดียวกับอวัยวะเพศ ดังนั้นภาวะไขมันในเลือดสูงขัดขวางการแข็งตัวขององคชาต โดยสาเหตุมาจากภาวะไขมันในเลือดสูงและภาวะโรคอ้วน อีกปัจจัยทางกายได้แก่ความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมน การลดลงของฮอร์โมนเพศชายชนิด Testosterone เพิ่มโอกาสการเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปัจจัยจากความผิดปกติทางจิตใจ ปัจจัยด้านจิตใจที่ส่งผลต่อการแข็งตัวขององคชาตคือความเครียดและความกังวล ซึ่งขัดขวางการส่งสัญญาณจากสมองไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังองคชาต นำไปสู่ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเช่นกัน ข้อมูลจากเว็บไซต์ Healthline.com พบว่า ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวจากความเครียดและความกังวลสามารถพบได้ในชายทุกช่วงวัย โดยมีปัจจัยที่แตกต่างกันดังนี้ ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในวัยรุ่นและคนหนุ่ม 90% เกิดจากความเครียดและความกังวล ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นชั่วคราว ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในชายวัยกลางคน ส่วนหนึ่งมาจากความเครียดจากการทำงานและปัญหาส่วนบุคคล ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในชายสูงวัย มักเกิดจากการความเสื่อมถอยทางกายเป็นหลัก […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ใช้ Hydrogen Peroxide ทาผิวรักษามะเร็ง จริงหรือ?

22 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโออ้างว่า สาร Hydrogen Peroxide ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อโรค หากนำมาทาที่ผิวหนัง Hydrogen Peroxide จะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายไปทำลายเนื้อเยื่อของก้อนเนื้อร้าย และสามารถรักษามะเร็งให้หายขาดได้ บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : บุคคลที่กล่าวอ้างได้แก่ ชาร์ลอต เกอร์สัน บุตรสาวผู้ล่วงลับของ แม็กซ์ เกอร์สัน แพทย์เจ้าของแนวคิด Gerson therapy ที่ใช้การแพทย์ทางเลือกบำบัดผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งได้รับการยืนยันในภายหลังว่าไม่ได้ผลและยังเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย Hydrogen Peroxide เป็นสารเคมีที่นำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งใช้เป็นน้ำยาฟอกขาว สารฟอกสี น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาบ้วนปาก ฯลฯ อย่างไรก็ดี ไม่มีหลักฐานว่า การทา Hydrogen Peroxide บนผิวหนังจะสามารถทำลายเนื้อเยื่อของก้อนเนื้อร้ายตามที่กล่าวอ้าง สถาบันโรคมะเร็งสหรัฐฯ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: สาร Selenium ใช้เพื่อรักษามะเร็ง จริงหรือ?

21 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีคลิปวิดีโออ้างว่า สาร Selenium ซึ่งพบในอาหารทั่วไป มีประโยชน์ในการรักษามะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่เหตุที่ไม่มีการศึกษาวิจัยในวงกว้าง เนื่องจากเป็นสิ่งที่หาได้ในธรรมชาติ จึงไม่สร้างกำไรให้กับบริษัทผู้ผลิตยานั่นเอง บทสรุป : FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Selenium เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย พบในอาหารหลายชนิด เช่น อาหารทะเล เนื้อไก่ เนื้อวัว ถั่ว และธัญพืช ศูนย์การแพทย์ Memorial Sloan Kettering Cancer Centre (MSKCC) แนะนำว่า ในแต่ละวันควรรับแร่ธาตุ Selenium ในปริมาณ 55 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่หาได้จากแหล่งอาหารทั่วไป โดยระดับสูงสุดที่ร่างกายรับได้ควรไม่เกิน 400 ไมโครกรัมต่อวัน หากรับแร่ธาตุ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: Fenbendazole ยาฆ่าพยาธิรักษามะเร็งได้ จริงหรือ?

19 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิผลการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งด้วยยาฆ่าพยาธิเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่า Fenbendazole ยารักษาปรสิตในสัตว์ ได้รับการกล่าวอ้างถึงประสิทธิผลด้านการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ทั้งการยืนยันโดย เมล กิบสัน นักแสดงฮอลลีวูด ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Joe Rogan Experience และการเผยแพร่เรื่องราวของ โจ ทิปเพนส์ ชาวอเมริกันที่อ้างว่าหายจากมะเร็งปอดจากการใช้ยา Fenbendazole นอกจากนี้ ยังมีการอ้างว่า สาเหตุที่ยารักษาปรสิตใช้ได้ดีในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากเซลล์มะเร็งก็คือปรสิตที่อยู่ในร่างกายมนุษย์นั่นเอง บทสรุป : 1.Fenbendazole ใช้รักษาโรคจากปรสิตในสัตว์เท่านั้น2.มีการทดลองใช้ Fenbendazole รักษามะเร็งในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง2.แต่ยังไม่มีการทดลองใช้ Fenbendazole รักษามะเร็งในมนุษย์ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ความเหมือนและแตกต่างระหว่างปรสิตและเซลล์มะเร็ง ปรสิตและเซลล์มะเร็งต่างพึ่งพาแหล่งอาหารจากร่างกายของ Host เพื่อใช้ในการเติบโตหรือการแบ่งตัวเหมือนกันทั้งคู่ และยังสามารถต้านทานการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันของ Host ได้เช่นกัน แต่ปรสิตไม่ถือเป็นส่วนเดียวกับร่างกายของ […]

ชัวร์ก่อนแชร์: Ivermectin ถูกปิดบังเรื่องการรักษามะเร็ง จริงหรือ?

17 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสิทธิผลการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งด้วยยาฆ่าพยาธิเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่า Ivermectin ยารักษาปรสิตทั้งในคนและสัตว์ ได้รับการยืนยันว่ามีประสิทธิผลการรักษามะเร็งดีกว่าการใช้เคมีบำบัด ซึ่งเหตุผลที่วงการแพทย์ไม่สนับสนุนให้ใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งเพราะเป็นยาที่หาง่ายและราคาถูก จึงไม่สร้างกำไรให้กับวงการแพทย์ บทสรุป : 1.มีการทดลองใช้ Ivermectin รักษามะเร็งในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง2.แต่ยังไม่มีการทดลองใช้ Ivermectin รักษามะเร็งในมนุษย์ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : Ivermectin เป็นยาที่ใช้รักษาอาการป่วยจากปรสิต เช่น ปรสิตในลำไส้ของสัตว์ หรือโรคจากพยาธิเส้นด้ายหรือโรคหิดที่เกิดในมนุษย์ กระบวนการทำงานของยา Ivermectin เพื่อการแทรกแซงระบบประสาทและกล้ามเนื้อของปรสิต ทำให้ปรสิตเป็นอัมพาตและตายในที่สุด ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีการเผยแพร่ข่าวปลอมเรื่องประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยยา Ivermectin แม้จะมีการยืนยันในภายหลังว่าการใช้ยา Ivermectin ไม่มีประโยชน์ต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่อย่างใด แต่กระนั้นการใช้ยา Ivermectin เพื่อทดลองยับยั้งการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง กำลังได้รับความสนใจในวงการแพทย์อย่างสูง งานวิจัยปี 2014 ซึ่งเป็นการทดลองกับเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่ายา Ivermectin […]

ชัวร์ก่อนแชร์: พบฝุ่นแม่เหล็กจาก Chemtrail ในสิ่งแวดล้อม จริงหรือ?

14 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเมฆหางเครื่องบินหรือ Contrail เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าปรากฏการณ์ฝุ่นที่ลอยปกคลุมพื้นที่บางส่วนของสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกันยายนปี 2023 คือหลักฐานที่เชื่อว่ามีการจงใจเผยแพร่สารเคมีในชั้นบรรยากาศหรือ Chemtrail เมื่อพบว่าฝุ่นผงที่พบมีลักษณะเป็นแม่เหล็กซึ่งไม่น่าจะพบในธรรมชาติ บทสรุป : 1.สารเคมีหรือ Chemtrail จากไอพ่นเครื่องบินไม่มีจริง2.ฝุ่นแม่เหล็กมีที่มาจากทะเลทรายสะฮารา FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : จากการยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า ฝุ่นผงที่พบในสหราชอาณาจักรไม่ใช่ Chemtrail ตามที่กล่าวอ้าง แต่เป็นฝุ่นผงที่พัดมาจากทะเลทรายสะฮารา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ที่พัดมายังพื้นที่ในหลายประเทศของทวีปยุโรปช่วงฤดูร้อนของปี 2023 ศาสตราจารย์ บาร์บารา มาเฮอร์ ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแลนคาสเตอร์ อธิบายว่า ฝุ่นผงที่ถูกพัดมาจากทะเลทรายสะฮารา ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่พบในทะเลทราย รวมถึงมลพิษทางอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ปัจจัยที่ทำให้ฝุ่นผงจากทะเลทรายสะฮารามีลักษณะเป็นแม่เหล็ก เนื่องจากมีส่วนประกอบหลักเป็นฮีมาไทต์ สินแร่เหล็กที่มีสีแดงเข้ม ซึ่งพบได้แพร่หลายในทะเลทรายสะฮารา โดยเป็นสินแร่ที่มีลักษณะเป็นแม่เหล็กอ่อน ๆ นั่นเอง ข้อมูลอ้างอิง : […]

ชัวร์ก่อนแชร์: ถ้าเมฆหางเครื่องบิน 2 ลำไม่เท่ากัน เแสดงว่าลำหนึ่งปล่อย Chemtrail จริงหรือ?

12 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ข้อมูลที่ถูกแชร์ : มีทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเมฆหางเครื่องบินหรือ Contrail เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการนำภาพถ่ายการปล่อย Contrail ของเครื่องบิน 2 ลำมาอ้างว่า การที่เครื่องบิน 2 ลำซึ่งบินในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน แต่มีลำหนึ่งปล่อยปริมาณเมฆหางเครื่องบินมากกว่าอีกลำหนึ่งอย่างชัดเจน คือหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามีการปล่อยสารเคมีหรือ Chemtrail ออกมาจากไอพ่นเครื่องบินลำดังกล่าว เนื่องจากเครื่องบินที่อยู่ในตำแหน่งที่บรรยากาศมีค่าความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) เท่ากัน จะต้องปล่อยเมฆหางเครื่องบินในปริมาณที่เท่ากันเท่านั้น บทสรุป : 1.สารเคมีหรือ Chemtrail จากไอพ่นเครื่องบินไม่มีจริง2.เครื่องบิน 2 ลำที่ดูเหมือนบินใกล้กันในแนวราบ อาจจะบินห่างกันในแนวดิ่งตามข้อกำหนดเรื่อง Cruising Altitudes FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : อย่างไรก็ตาม การที่เครื่องบิน 2 ลำดูเหมือนอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กันในแนวราบ ไม่ได้หมายความว่าความชื้นสัมพัทธ์ที่อยู่รอบเครื่องบินทั้ง 2 ลำจะเหมือนกัน เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเครื่องบินทั้ง 2 […]

ส่องทีมสิ่งแวดล้อมทรัมป์ 2.0 ตัวแทนบริษัทก่อมลพิษยกแผง

11 กุมภาพันธ์ 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล การขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของ โดนัลด์ ทรัมป์ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายหลายอย่างในหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ หนึ่งในนั้นคือบุคลากรในสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ที่ได้รับการเปิดเผยว่า เต็มไปด้วยบุคคลที่เคยเป็นตัวแทนองค์กรธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันและสารเคมี ซึ่งเป็นตัวการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม 1.ลี เซลดิน ตัวเต็งตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ได้แก่ ลี เซลดิน ทนายความและอดีตสมาชิกรัฐสภา ซี่งได้รับการเสนอชื่อโดย โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ในช่วงที่ผู้นำสหรัฐฯ ถูกดำเนินคดีถอดถอนออกจากตำแหน่งในปี 2019 ลี เซลดิน ถือเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนที่ภักดีที่สุดของ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทรัมป์ชื่นชมภูมิหลังทางกฎหมายของเซลดินและความภักดีต่อนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของเขา ในอดีต ลี เซลดิน เคยทั้งยอมรับและไม่ยอมรับการมีอยู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) และเคยออกเสียงทั้งสนับสนุนและคัดค้านนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมในรัฐสภา โดยในช่วง 8 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขาลงคะแนนเสียง “ต่อต้านสิ่งแวดล้อม” 203 […]

1 6 7 8 9 10 42