ชัวร์ก่อนแชร์: ฟลูออไรด์ในน้ำดื่มทำให้เด็กไอคิวต่ำ จริงหรือ?

21 เมษายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประโยชน์ของฟลูออไรด์ต่อสุขภาพฟันเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐฯ เมื่อ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ เคยกล่าวถึงโทษของการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มของสหรัฐฯ ระหว่างการหาเสียงเมื่อปี 2024 โดยให้ความเห็นว่าฟลูออไรด์ในน้ำดื่มส่งผลเสียต่อพัฒนาการสมองของเยาวชน โดยอ้างคดีเมื่อเดือนกันยายน 2024 ที่สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) ถูกตัดสินให้ปรับปรุงคำแนะนำเรื่องระดับปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม


และงานวิจัยจากโครงการพิษวิทยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Toxicology Program – NTP) ที่เนื้อหาฉบับร่างที่เผยแพร่เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ระบุว่า ปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำดื่มระดับสูง ส่งผลต่อพัฒนาการสมองที่ลดลงในเยาวชน

การต่อต้านฟลูออไรด์ในน้ำดื่มโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ ส่งผลให้กระแสต่อต้านฟลูออไรด์ในน้ำดื่มถูกเผยแพร่ในวงกว้าง โดยล่าสุดผู้ว่าการรัฐยูทาห์เตรียมประกาศแบนการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม ส่งผลให้ยูทาห์อาจเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่มีนโยบายแบนฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม

บทสรุป :


1.การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม ทำให้ได้รับฟลูออไรด์ในรูปแบบ Systemic Fluoride เสริมจากการแปรงฟันซึ่งเป็นการรับฟลูออไรด์ในรูปแบบ Topical Fluoride
2.แม้จะมีงานวิจัยพบว่าการน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์สูง ส่งผลต่อไอคิวของเด็ก แต่ไม่มีรายงานว่า การน้ำดื่มที่มีปริมาณฟลูออไรด์เหมาะสม จะส่งผลต่อระดับสติปัญญาของเด็ก
3.ข้อมูลในสหรัฐฯ พบว่าการดื่มน้ำผสมฟลูออไรด์ลดอัตราการเกิดฟันผุในเด็กได้มาก

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มของสหรัฐฯ

สหรัฐฯ เริ่มเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มครั้งแรกเมื่อปี 1945 จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพฟันของประชาชน ให้ได้รับฟลูออไรด์ในรูปแบบ Systemic Fluoride ผ่านน้ำดื่มผสมฟลูออไรด์ เพื่อเสริมจากการได้รับฟลูออไรด์ในรูปแบบ Topical Fluoride ผ่านการแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์

ปัจจุบันชาวอเมริกันเกือบ 70% ได้รับฟลูออไรด์จากน้ำดื่ม โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่า การดื่มน้ำผสมฟลูออไรด์ช่วยลดอาการฟันผุในเด็กและผู้ใหญ่ชาวอเมริกันได้ถึง 25% และจัดให้การเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มเป็น 1 ใน 10 ความสำเร็จด้านสาธารณสุขแห่งศตวรรษที่ 20

ปริมาณฟลูออไรด์ที่แนะนำในน้ำดื่ม

องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำไม่ควรเกิน 1.5 มิลลิกรัมต่อลิตร

ในสหรัฐฯ เคยกำหนดให้น้ำดื่มมีปริมาณฟลูออไรด์ไม่เกิน 1.2 มิลลิกรัมต่อลิตร ก่อนจะลดลงเหลือ 0.7 มิลลิกรัมต่อลิตรตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา

ด้านสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) กำหนดให้มีฟลูออไรด์ในน้ำดื่มเอาไว้ 2 ระดับ

ได้แก่ระดับ Primary Drinking Water Regulations ที่มีฟลูออไรด์ไม่เกิน 4 มิลลิกรัมต่อลิตร เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ดื่มเสี่ยงต่อโรค Skeletal Fluorosis จากการรับฟลูออไรด์ปริมาณมากเป็นเวลานาน นำไปสู่การสะสมของแคลเซียมในกระดูก ทำให้กระดูกผิดรูป กระดูกเปราะบาง เจ็บที่กระดูกและข้อต่อ

และระดับ Secondary Drinking Water Standards ที่มีฟลูออไรด์ไม่เกิน 2 มิลลิกรัมต่อลิตร เพื่อป้องกันผู้ดื่มจากความเสี่ยงต่อโรค Dental Fluorosis หรือโรคฟันตกกระ

คำพิพากษาของศาลแขวงของรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ ตัดสินให้ EPA ต้องปรับปรุงคำแนะนำปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม ซึ่งทาง EPA มีแผนที่จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินในอนาคต

NTP ย้ำ ไม่พบอันตรายในน้ำที่มีฟลูออไรด์น้อยกว่า 0.7 มิลลิกรัมต่อลิตร

เมื่อเดือนมกราคม 2025 โครงการพิษวิทยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Toxicology Program – NTP) ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยเชิงการวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) เกี่ยวกับปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำดื่มและพัฒนาการทางระบบประสาทและความทรงจำ

ผลการศึกษาพบว่า ขณะที่ปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำดื่มไม่มีผลต่อการทำงานของสมองในผู้ใหญ่ แต่พบความเป็นไปได้ว่าการได้รับฟลูออไรด์ในน้ำดื่มปริมาณสูงกว่า 1.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่งผลให้เด็กมีไอคิวที่ต่ำกว่าเด็กที่ได้รับปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำดื่มที่น้อยกว่า

ข้อมูลดังกล่าวสร้างข้อโต้แย้งในแวดวงทันตกรรมอย่างแพร่หลาย เพราะบรรดางานวิจัยที่ถูกนำมาวิเคราะห์ส่วนใหญ่เป็นการสำรวจปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำดื่มจากประเทศที่มีปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำดื่มสูงปกติและสูงกว่าที่พบในสหรัฐฯ เช่น แคนาดา จีน อินเดีย อิหร่าน ปากีสถาน และเม็กซิโก

นอกจากนี้ โครงการพิษวิทยาแห่งชาติสหรัฐอเมริกาย้ำว่า ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนถึงผลกระทบต่อไอคิวเด็กที่ได้รับฟลูออไรด์ในน้ำดื่มระดับต่ำหรือ 0.7 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นระดับที่สหรัฐฯ แนะนำในปัจจุบัน

โดยเน้นว่าผลกระทบของฟลูออไรด์ในน้ำดื่มต่อพัฒนาการของเด็กยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งงานวิจัยครั้งนี้ไม่ใช่การตั้งคำถามถึงประโยชน์ของฟลูออไรด์ต่อสุขภาพของประชาชน

งานวิจัยโทษของฟลูออไรด์ในน้ำดื่มไม่ชัดเจน

มีงานวิจัยมากมายที่ถูกใช้เป็นหลักฐานยืนยันอันตรายจากการผสมฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม แต่การตรวจสอบพบว่าหลายงานการวิจัยขาดความชัดเจน

งานวิจัย Meta-analysis ปี 2012 ที่เผยแพร่ทางวารสาร Environmental Health Perspectives เป็นการสำรวจการดื่มน้ำในพื้นที่ยากไร้ในสาธารณรัฐประชาชนจีน มองโกเลีย และอิหร่าน ซึ่งมีปัญหามลภาวะในสิ่งแวดล้อมและมีปริมาณฟลูออไรด์สูงกว่าปกติ

ทีมวิจัยสรุปว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แหล่งน้ำมีปริมาณฟลูออไรด์สูง จะมีไอคิวที่ต่ำกว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แหล่งน้ำมีปริมาณฟลูออไรด์ต่ำ

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวถูกตั้งคำถามเรื่องการไม่ควบคุมตัวแปรกวนอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อไอคิวของเด็ก เช่น มลภาวะ โภชนาการ ไอคิวของผู้ปกครอง สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังไม่ได้กำหนดข้อมูลที่ใช้อ้างอิงถึงปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสม จึงอาจตีความได้ว่าการได้รับฟลูออไรด์ในน้ำดื่มในปริมาณที่เหมาะสมอาจส่งผลให้ไอคิวสูงก็เป็นได้

งานวิจัย Meta-analysis ปี 2021 ที่เผยแพร่ทางวารสาร Scientific Reports พบว่าการได้รับฟลูออไรด์ปริมาณสูงมีความสัมพันธ์ต่อภาวะไอคิวต่ำ แต่ไม่พบว่าการได้รับฟลูออไรด์ปริมาณต่ำมีความสัมพันธ์ต่อปัญหาระบบประสาท

โดยกำหนดให้ฟลูออไรด์มากกว่า 2 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็นระดับสูง และฟลูออไรด์ระหว่าง 0.5-1 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็นระดับต่ำ

ซึ่งผู้วิจัยย้ำว่าหลักฐานที่พบส่วนใหญ่มีคุณภาพต่ำ จึงไม่อาจสรุปได้ว่าฟลูออไรด์มีผลต่อปัญหาระบบประสาท แม้จะรับในปริมาณสูงก็ตาม

งานวิจัย Meta-analysis ปี 2023 ที่เผยแพร่ทางวารสาร Environmental Research พบว่า ฟลูออไรด์มีความสัมพันธ์ต่อภาวะไอคิวต่ำในเด็ก แม้จะได้รับในปริมาณน้อยหรือเพียง 1 มิลลิกรัมต่อลิตรหรือน้อยกว่าก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยพบว่างานวิจัยหลายชิ้นที่พบอันตรายของฟลูออไรด์ล้วนมีปัญหาด้านควบคุมคุณภาพในงานวิจัย เช่น การไม่ควบคุมตัวแปรกวน

โดยพบว่า งานวิจัยเดียวที่ศึกษาซึ่งไม่มีปัญหาด้านคุณภาพงานวิจัย ไม่พบว่าฟลูออไรด์มีผลต่อภาวะไอคิวของเด็ก

งานวิจัย Meta-analysis ปี 2023 ที่เผยแพร่ทางวารสาร Public Health ซึ่งตรวจสอบงานวิจัยที่ศึกษาการดื่มน้ำผสมฟลูออไรด์ในระดับไม่เกิน 1.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ไม่พบว่าการดื่มน้ำผสมฟลูออไรด์มีความสัมพันธ์ต่อระดับไอคิวแต่อย่างใด

ที่ผ่านมา มีงานวิจัยในหลอดทดลองที่พบว่าฟลูออไรด์ปริมาณสูงมาก ๆ ส่งผลเสียต่อเซลล์ระบบประสาท แต่การทดลองในสัตว์ทดลองและมนุษย์ ไม่พบว่าฟลูออไรด์ระดับต่ำที่ผสมในน้ำดื่มจะส่งผลเสียต่อระบบประสาทแต่อย่างใด

ปัญหาสุขภาพฟันหลังยุติการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม

ลินด์ซีย์ แม็คลาเรน ศาสตราจารย์ ภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยคัลการี ประเทศแคนาดา อธิบายว่า หลังจากเมืองคัลการี ยุติการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มเมื่อปี 2011 พบว่า เด็กในเมืองมีปัญหาสุขภาพฟันมากขึ้น ปัจจุบันเมืองคัลการีจึงกลับมาเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่มอีกครั้งในปี 2025

ลินด์ซีย์ แม็คลาเรน ย้ำว่า ฟันผุไม่ใช่เรื่องเล็ก ความเจ็บปวดในช่องปากทำให้เด็กขาดสารอาหารและเสียสมาธิระหว่างการเรียนหนังสือ อาการฟันผุที่รุนแรงอาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดที่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับเด็ก

รอดนีย์ ธาร์นเนลล์ ประธานสมาคมทันตแพทย์รัฐยูทาห์ ซึ่งเคยทำงานเป็นหมอในเมืองซอลต์เลกซิตี ในยุคที่รัฐยูทาห์ยังไม่มีนโยบายเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม เล่าว่า ในปัจจุบันพบว่าผู้ใหญ่ในเมืองจำนวนมากมีปัญหาฟันผุ ต่างจากเด็กในเมืองที่เกิดในยุคที่มีการเติมฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม ที่มีปัญหาฟันผุน้อยกว่ามาก

รอดนีย์ ธาร์นเนลล์ ย้ำว่า ตราบใดที่ประชาชนยังชอบกินน้ำตาล ฟลูออไรด์ก็ยังมีความจำเป็นอย่างมาก

ข้อมูลอ้างอิง :

https://healthfeedback.org/claimreview/low-amounts-fluoride-added-community-water-not-associated-with-neurotoxicity-contrary-online-claims/
https://www.factcheck.org/2024/02/cdc-experts-say-fluoridated-water-is-safe-contrary-to-rfk-jr-s-warnings/
https://apnews.com/article/fluoride-ban-drinking-water-utah-559d92736f1958ff5d109071fa85f5b5

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย