ปาฏิหาริย์การทำนายแผ่นดินไหวเมืองไห่เฉิง 1975

09 เมษายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


หนึ่งในความเข้าใจผิดว่ามนุษย์สามารถพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ได้ เกิดจากความสำเร็จในการอพยพชาวเมืองไห่เฉิง นครอานชาน มณฑลเหลียวหนิง เมืองทางตอนเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1975 ก่อนเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ช่วยให้ชาวเมืองรอดชีวิตจากมหันตภัยครั้งใหญ่นับแสนชีวิตอย่างปาฏิหาริย์

การเตือนภัยแผ่นดินไหวในจีน


สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 1966 – 1969 นำไปสู่การประชุมของหน่วยงานภาครัฐในปี 1970 เพื่อประเมินความเสี่ยงการเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอนาคต ก่อนจะพบว่าภูมิภาคที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

หลังรวบรวมข้อมูลเป็นเวลา 4 ปี ในเดือนมิถุนายน 1974 มีการคาดการณ์ความเป็นไปได้ของการเกิดเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 5-6 แมกนิจูดภายในระยะเวลา 2 ปี ในพื้นที่รอบ ๆ ทะเลปั๋วไห่ อันได้แก่มณฑลซานตง มณฑลเหอเป่ย์ เทียนจิน และมณฑลเหลียวหนิง นำไปสู่การออกมาตรฐานเตรียมพร้อมรับมือเหตุแผ่นดินไหวที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 1975 เป็นต้นไป

ในเดือนธันวาคม 1974 พบการเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กอย่างต่อเนื่องในเมืองเหลียวหยาง ของมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งอยู่ติดกับเมืองไห่เฉิง โดยวัดความรุนแรงสูงสุดได้ 4.5 แมกนิจูด


ก่อนเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองไห่เฉิงไม่นาน ได้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่เชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุ ทั้งระดับน้ำในบ่อน้ำบาดาลมีการผันผวนอย่างผิดปกติ เกิดการเปลี่ยนรูปทรงของผิวหน้าดิน และพบพฤติกรรมผิดปกติของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 1975 เช่นหนูและงูตัวแข็งค้างบนถนน วัวและม้ามีอาการกระสับกระส่าย ฝูงไก่ไม่ยอมเข้าเล้า ฝูงห่านออกบินบ่อยผิดปกติ

กระทั่งวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุแผ่นดินไหวย่อม ๆ คล้ายแผ่นดินไหวนำ (Foreshock) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรับรู้ได้ทั้งมณฑลเหลียวหนิง นำไปสู่การออกคำสั่งอพยพผู้คนจำนวนมากในเมืองเมืองไห่เฉิง

แผ่นดินไหวเมืองไห่เฉิง 1975

กระทั่งเวลา 19.36 นาฬิกาของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1975 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.5 แมกนิจูด ที่เมืองไห่เฉิง นครอานชาน มณฑลเหลียวหนิง ส่งผลให้สิ่งก่อสร้างเกือบ 90% ภายในเมืองถูกทำลาย ความเสียหายรวมถึงถนน รางรถไฟ สะพาน ท่อส่งน้ำมัน และที่ดินเพาะปลูกที่ได้รับความเสียหาย

มีการประเมินว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองที่มีผู้อาศัยมากกว่า 1 ล้านรายในเมืองไห่เฉิง น่าจะทำให้มียอดผู้เสียชีวิตประมาณ 1.5 แสนราย แต่การเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตมีแค่เพียง 2,041 ราย และมีผู้บาดเจ็บที่ 27,000 รายเท่านั้น

การสอบสวนการทำนายเหตุแผ่นดินไหว

แม้ความสำเร็จของการเตือนภัยเหตุแผ่นดินไหวเมืองไห่เฉิง มักจะถูกใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงความเป็นไปได้เรื่องการทำนายเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ อย่างไรก็ดี การสอบสวนโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่เดินทางไปตรวจสอบข้อมูลที่เมืองไห่เฉิงในปี 1976 สรุปว่า คำสั่งอพยพน่าจะเป็นนโยบายรับมือต่อเหตุแผ่นดินไหวนำ (Foreshock) ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไม่กี่วัน

คำสั่งอพยพครั้งสุดท้ายซึ่งมีขึ้นก่อนเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ไม่กี่ชั่วโมง ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่อาจสรุปได้ว่าความสำเร็จดังกล่าวเป็นความสามารถในการทำนายแผ่นดินไหวของทางการจีนหรือเป็นแค่เหตุบังเอิญ

หลักฐานที่ยืนยันว่า สัญญาณที่ใช้เตือนชาวเมืองไห่เฉิงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่สามารถใช้เตือนภัยเหตุแผ่นดินไหวอื่น ๆ ที่จะตามมา เพราะในปี 1976 เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองถังชาน มณฑลเหอเป่ย์ วัดระดับความรุนแรงได้ 7.6 แมกนิจูด ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 2.5-3 แสนราย กลายเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกเท่าที่มีการบันทึกไว้

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมืองถังชาน ไม่พบว่ามีสัญญาณบอกเหตุแผ่นดินไหวใด ๆ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับเมืองไห่เฉิงแม้แต่น้อย

แผ่นดินไหวนำ (Foreshock)

แผ่นดินไหวนำ หรือ Foreshock เป็นแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับแผ่นดินไหวตามหรือ Aftershock ที่อาจเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ โดยทั้ง 3 ส่วนจะมีความสัมพันธ์กันทั้งช่วงเวลาและพื้นที่

การสำรวจพบว่า 40% ของแผ่นดินไหวนำจะเกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ และ 70% จะเกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหวระดับ 7 แมกนิจูดขึ้นไป

ความไม่แน่นอนของการใช้เหตุแผ่นดินไหวนำเพื่อพยากรณ์เหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ คือระยะเวลาระหว่างแผ่นดินไหวนำและแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ที่มีตั้งแต่ระดับนาที ระดับวัน หรือนานมากกว่านั้น

เช่น เหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 มีความสัมพันธ์กับเหตุแผ่นดินไหวในเกาะสุมาตราปี 2002 หลังพบว่าเหตุแผ่นดินไหวระดับความรุนแรง 7.4 แมกนิจูดในปี 2002 คือ Foreshock ของเหตุแผ่นดินไหวระดับความรุนแรง 9.2–9.3 แมกนิจูด ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีต่อมา

ในขณะเดียวกัน แผ่นดินไหวในประเทศอินเดียและจีนปี 1950 ซึ่งมีระดับความรุนแรง 8.5 แมกนิจูด กลับไม่พบหลักฐานการเกิดแผ่นดินไหวนำแม้แต่น้อย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/1975_Haicheng_earthquake
https://en.wikipedia.org/wiki/Earthquake_prediction
https://en.wikipedia.org/wiki/Foreshock

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]