เกษตรฯ ยืนยันไม่มีสินค้าเกษตรทะลักเข้าไทยผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน

กรุงเทพฯ 17 ธ.ค. – กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันไม่พบการลักลอบนำเข้าผักและผลไม้จากจีนเข้าไทยผ่านรถไฟลาว-จีน ที่เพิ่งเปิดเส้นทาง มีแต่การทดลองขนส่งผักจากจีนมาไทย 33 ตู้ ล่าสุดประสานหน่วยงานความมั่นคงที่ดูแลรับผิดชอบบริเวณด่านชายแดนร่วมตรวจสอบอย่างใกล้ชิด


นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้ตรวจสอบกรณีที่มีข่าวว่า มีสินค้าเกษตรโดยเฉพาะผักและผลไม้จากจีนทะลักเข้าสู่ไทย หลังจากเปิดเส้นทางรถไฟลาว-จีน ซึ่งยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง โดยนับจากเปิดเที่ยวปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ไม่พบปัญหาสินค้าทะลักมาตามที่ข่าว แต่ทางจีนทดลองขนส่งผักมาไทย 33 ตู้ โดยเป็นผักเมืองหนาว 600 ตัน มูลค่า 8.026 ล้านบาท ซึ่งเปลี่ยนเส้นทางขนส่งจากรถบนเส้นทาง R3A มาเป็นรถไฟ เนื่องจากการจราจรด่านโมฮ่านของจีนแออัดมาก รวมทั้งยังไม่มีผู้ประกอบการมาติดต่อขอนำสินค้าเกษตรจำนวนมากผิดปกติ สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีนผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน ยังไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการตรวจรับสถานที่ควบคุมตรวจสอบเฉพาะสำหรับสินค้านำเข้า โดยคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ในเดือนเมษายน 2565

ทั้งนี้ กำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัดที่ประจำด่านให้เข้มงวดเรื่องการตรวจสอบคุณภาพและดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด หากพบการลักลอบสินค้าเกษตรเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย สามารถจับกุมได้ทันที อีกทั้งยังได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงที่ดูแลรับผิดชอบบริเวณด่านชายแดนให้ร่วมตรวจสอบอย่างใกล้ชิด        


นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ กำชับ โดยพบว่า การนำเข้าผัก-ผลไม้จากจีนผ่านด่านตรวจพืชหนองคาย ได้ดำเนินการตรวจการนำเข้าอย่างเข้มงวดตามที่กฎหมายกำหนด

สำหรับการนำเข้าสินค้าเกษตรทางรถไฟ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 มีการนำเข้าสินค้าตระกูลกะหล่ำ 32 รายการ 462 ตัน มูลค่า 8.27 ล้านบาท และบัวหิมะ 25.5 ตัน มูลค่า 467,032 บาท รวมทั้งสิ้น 33 ตู้ ปัจจุบันยังไม่มีการนำเข้ามาทางรถไฟเพิ่ม เนื่องจากรอการรวบรวมสินค้าเกษตรกลุ่มธัญพืชและอื่นๆ ให้เต็มทั้ง 33 ตู้ ส่วนการนำเข้าผลไม้จากจีนนั้น ไม่สามารถนำเข้าผ่านด่านหนองคายได้ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในข้อกำหนดในพิธีสารไทย-จีน โดยในพิธีสารไทย-จีน กำหนดด่านที่นำเข้าส่งออกผลไม้จากจีน-ไทยได้ 5 ด่าน ได้แก่ ด่านเชียงของ ด่านนครพนม ด่านมุกดาหาร ด่านผักกาด จ. จันทบุรี และด่านบึงกาฬ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย