อุทยานฯ – ปศุสัตว์ร่วมเฝ้าระวังเข้มโรคลัมปี สกินลุกลามติดสัตว์ป่า

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสั่งให้ทีมสัตวแพทย์สอบสวนโรคลัมปี สกินที่พบเชื้อในซากกระทิงของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ส่วนอธิบดีกรมปศุสัตว์สั่งเจ้าหน้าที่เข้าฉีดวัคซีนครอบคลุมพื้นที่ 5 กิโลเมตรจากชายขอบอุทยานแห่งชาติ


นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า มอบหมายให้นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่านำทีมสัตวแพทย์สอบสวนโรคที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์เนื่องจากตรวจซากกระทิงพบสารพันธุกรรมของโรคลัมปี สกิน พร้อมกันนี้กำชับให้ทุกอุทยานแห่งชาติป้องกันการระบาดของโรคจากโค-กระบือของเกษตรกรไปติดสัตว์ป่าได้แก่ กระทิง วัวแดง และควายป่า

สำหรับปัจจัยที่อาจทำให้เกิดการลุกลากไปติดสัตว์ป่าได้แก่ การที่แมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะบินไปกัดสัตว์ป่า ชาวบ้านนำโค-กระบือเข้าไปเลี้ยงในเขตอุทยาน สัตว์ป่าออกมาหากินนอกเขตอุทยาน เป็นต้น จึงจำเป็นต้องควบคุมปัจจัยต่างๆ


ตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคลัมปี สกินได้สั่งการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุกแห่งเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนเชิงคุณภาพเพื่อสังเกตพฤติกรรมและความผิดปกติของสัตว์ป่า หากพบสัตว์ป่าป่วย โดยมีตุ่มขนาดใหญ่ประมาณ 2-5 เซนติเมตร ขึ้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย พบมากที่คอ หัว เต้านม ถุงอัณฑะ และช่วงขา รวมทั้งมีอาการเดินผิดปกติ หรือพบสัตว์ป่าตายให้แจ้งสัตวแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบหรือหน่วยงานใกล้เคียงเข้าตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันสาเหตุของการป่วยหรือตาย รวมทั้งกำหนดแนวเขตกันชน ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์และควบคุมไม่ให้มีการใช้พื้นที่ชายขอบป่าอนุรักษ์ในการเลี้ยงสัตว์ปศุสัตว์ ประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ร่วมกันเฝ้าระวังการป่วยหรือตายผิดปกติของสัตว์ป่า พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการต่อไป

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ร่วมมือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชป้องกันโรคลัมปี สกินที่อาจระบาดเข้าไปติดสัตว์ป่า กรณีที่พบกระทิงของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ติดเชื้อลัมปี สกิน กรมปศุสัตว์ได้ตรวจสอบสถานการณ์โรคในพื้นที่ 5 กิโลเมตรจากชายขอบรัศมีอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งพบว่ามีโค
จำนวน 2,234 ตัว จากเกษตรกร 209 ราย แสดงอาการป่วย ภ ตัว และได้ประสานกับอุทยานแห่งชาติกุยบุรีร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เร่งด่วนซึ่งมี ๖ มาตรการดังนี้

  1. ระงับการเคลื่อนย้ายโค – กระบือ เข้าและออกในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีการประกาศเป็นเขตโรคระบาดชนิดลัมปี สกิน และห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทั้งหมดแล้ว
  2. เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการควบคุมและกำจัดแมลงพาหะของโรคในพื้นที่เสี่ยง โดยการใช้ยาพ่นฆ่าแมลงในพื้นที่ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์พาหะและฉีดพ่นบนตัวโค-กระบือ เป็นต้น
  3. เร่งรัดการทำวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ พื้นที่ 5 กิโลเมตรจากชายขอบอุทยานทั้ง 2,234 ตัว
  4. ประชาสัมพันธ์เกษตรกรในพื้นที่ หากพบโคแสดงอาการให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพื่อช่วย
    รักษาพยาบาสสัตว์ป่วยและลดการแพร่เชื้อโรค
  5. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีต้องป้องกันไม่ให้สัตว์ป่า เช่น กระทิง วัวแดง ออกมาหากินในพื้นที่ที่มีการเลี้ยงโค กระบือ รวมทั้งไม่ให้มีการนำโค3กระบือเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ที่กระทิงอยู่อาศัยโดยมีระยะแนวกัน ชนประมาณ 1 กิโลเมตร
  6. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีพ่นยาฆ่าแมลงภายในยานพาหนะที่เข้า-ออกในพื้นที่ไม่ให้เป็นพาหะนำโรค

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวต่อว่า ได้เร่งจัดสรรวัคซีนอีก 5 ล้านโดสไปทุกพื้นที่ตามหลักวิชาการ โดยมั่นใจว่า หลังฉีดวัคซีนครอบคลุม 80% ของประชากรสัตว์เสี่ยง โรคจะสงบใน 3 เดือน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

สะพัด “4ผู้มีอิทธิพล” ทางการเมือง พบกันแล้ว

สะพัด “ทักษิณ-แพทองธาร-เนวิน-อนุทิน” ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง 4 คน พบกันแล้ว แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยว่าหารือกันในประเด็นใด

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน