เตือนน้ำทะเลหนุนสูง 25–30 เม.ย. เร่งเจือจางค่าความเค็มฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ

กรุงเทพฯ 25 เม.ย.- สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 25 – 30 เม.ย. 67 ส่วนปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำในจ. ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ เร่งสูบระบายน้ำที่ค่าความเค็มเกินมาตรฐานออกทะเลและรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำสำหรับเจือจางและไล่น้ำเค็ม


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)กล่าวว่า เร่งคลี่คลายสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำเข้าสู่คลองประเวศบุรีรมย์และคลองสาขา ตามที่เกิดเหตุการณ์ทำนบดินชั่วคราวปิดกั้นคลองประเวศบุรีรมย์พังทลาย ส่งผลกระทบให้น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามา โดยเฉพาะใน อ. เมืองฉะเชิงเทรา อ. บ้านโพธิ์ อ. บางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา และอ. บางบ่อ จ. สมุทรปราการ โดยสทนช. จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการจัดการทรัพยากรน้ำชั่วคราวในภาวะวิกฤติ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต จ. ฉะเชิงเทรา เพื่อบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบระบายน้ำที่ค่าความเค็มเกินมาตรฐานออกทะเลและรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำสำหรับเจือจางและไล่น้ำเค็ม

นอกจากนี้ยังมีการใช้จุลินทรีย์จากธรรมชาติหรือ EM เพื่อบำบัดคุณภาพน้ำลดค่าความเค็มตามที่กรมประมงได้จัดทำแผนที่แสดงค่าความเค็มที่เหมาะสมในแต่ละคลอง สำหรับให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำสามารถสูบน้ำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย ขณะนี้คุณภาพน้ำในแต่ละพื้นที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับค่าความเค็มที่ตรวจวัดเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 67 โดยบริเวณคลองเปร็งจากเดิม 19.63 กรัมต่อลิตร เหลือเพียง 0.88 กรัมต่อลิตร คลองประเวศบุรีรมย์จาก 28.04 กรัมต่อลิตร เหลือ 6.51 กรัมต่อลิตร คลองชวดพร้าวจาก 14.40 กรัมต่อลิตร เหลือ 2.55 กรัมต่อลิตร โดยเหลือเพียงบริเวณคลองพระยานาคราช 1 และ 2 และคลองพระยาสมุทรที่ยังมีค่าความเค็มสูง จากการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มประสิทธิภาพ คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้


สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคที่แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน  น้ำเพื่อการเกษตรที่แม่น้ำท่าจีน ณ สถานีประตูระบายน้ำปากคลองจินดาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแม่น้ำแม่กลอง ณ สถานีอัมพวาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แม่น้ำบางปะกง ณ สถานีวัดบางคางอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

สทนช. ออกประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 25 – 30 เม.ย. 67 โดยให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและไม่มีแนวคันกั้นน้ำ (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่ จ. สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ส่วนการเฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร ให้เฝ้าระวังบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา แม่กลอง ท่าจีน และบางปะกง

นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำในจ. ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการดีขึ้นตามลำดับ โดยเปิดรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองเปรมประชากรและประตูระบายน้ำบึงฝรั่ง เพื่อเจือจางค่าความเค็ม พร้อมบูรณาการร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ. สมุทรปราการ v. บางบ่อ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำคันดินชั่วคราว พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณต. บางพลีน้อย 2 จุดและต. บ้านระกาศ 2 จุด เร่งสูบระบายน้ำเค็มออกจากพื้นที่แอ่งกระทะและสูบจากคลองพระยานาคราชลงสู่คลองบางพลีน้อย ก่อนที่จะผลักดันน้ำออกสู่ทะเลผ่านประตูระบายน้ำนางหงส์และสถานีสูบน้ำพระยาวิสูตร


ขณะเดียวกันสูบน้ำในคลองสาขาต่างๆ ผ่านสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตรและคลองด่าน เมื่อน้ำจากทางตอนบนไหลลงมา เพื่อผลักดันน้ำเค็มให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ยังเร่งเติมน้ำเข้าสู่คลองระพีพัฒน์เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร อ. หนองเสือ จ. ปทุมธานี หลังจากที่น้ำส่วนหนึ่งถูกลำเลียงจากพื้นที่ตอนบนลงมาช่วยผลักดันน้ำเค็มในคลองประเวศบุรีรมย์ จ. ฉะเชิงเทรา เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศที่ได้รับความเสียหายจากน้ำเค็มอย่างเร่งด่วน ประกอบกับสภาพอากาศในปัจจุบันค่อนข้างร้อนและอยู่ในช่วงปลายฤดูแล้ง ทำให้มีการใช้น้ำในคลองส่งน้ำมากกว่าปกติ ทำให้ระดับน้ำในคลองที่อ. หนองเสือลดลงอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันปริมาณน้ำบางส่วนจากทางตอนบนได้ไหลลงมาถึงพื้นที่ตอนล่างแล้ว เพื่อทดแทนน้ำที่ระบายออกไปก่อนหน้านี้ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือจึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำลงสู่คลองระพีพัฒน์แยกตกเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ใช้น้ำในภาพรวม ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองเพิ่มสูงขึ้น กระจายน้ำเข้าไปยังคลองชลประทานที่เชื่อมต่อกับคลองหลักได้แล้ว พร้อมกับจัดรอบเวรการสูบน้ำเพื่อให้ได้รับน้ำอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ยังวางแผนติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณปากคลองเพิ่มเติม เพื่อให้พื้นที่ด้านท้ายคลองได้รับน้ำอย่างทั่วถึงด้วย จึงขอให้มั่นใจว่า เส้นทางที่น้ำไหลผ่านจะไม่ได้รับผลกระทบต่อการใช้น้ำในพื้นที่

สำหรับภาวะน้ำทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 25 – 30 เม.ย. นี้ จะไม่กระทบต่อการแก้ปัญหาค่าความเค็มที่จ. ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการเนื่องจากทำทำนบปิดกั้นและปิดประตูระบายน้ำ ไม่ให้น้ำเค็มเอ่อท้นเข้ามาใหม่ ขณะเดียวกันเร่งสูงน้ำในพื้นที่ออกและเร่งผลักดันสู่ทะเล. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดเล่มแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน ยึดหลักบริหารราชการแผ่นดิน 3 ประการ

กทม.25 ก.ย.- เปิดเล่มแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน ปกน้ำเงิน ขลิบธงชาติ ยึดหลักบริหารราชการแผ่นดิน 3 ประการ “พิทักษ์สถาบัน-ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย-ยึดมั่นหลักนิติธรรม” ยันรัฐบาลสนับสนุนการทำประชามติและทำฉบับใหม่ให้สอดคล้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่จะทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นเล่มนโยบาย ปกน้ำเงิน และมีองค์ประกอบ ที่ปกใกล้สันปก เป็น ขลิบสีธงชาติ โดยมี ทั้งหมด 50 หน้ารวมปก มีสาระสำคัญ โดยสรุปคือ เรื่องหลักบริหารราชการแผ่นดินและนโยบายสำคัญยึดหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1. การพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ 3.ยึดมั่นในหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และการบริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้ยัง มีเนื้อหา เกี่ยวกับการเข้าสู่การบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาล ภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โอกาสในการสร้างรายได้ของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ ซึ่งด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัดและงบประมาณที่ไม่ได้เป็นผู้จัดทำอีกทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่ประเทศกำลังประเชิญอยู่ในขณะนี้ […]

ชายแดนตึงเครียด กัมพูชายั่วยุตลอดคืน

25 ก.ย. – กัมพูชายังไม่เลิกยั่วยุ ชายแดนตึงเครียดตลอดคืน หลังพบการยิงปืนและระเบิดในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้าน รมว.ต่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงเวที UNGA เย็นนี้ สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กกองทัพบกทันกระแส รายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมา กัมพูชายังคงมีพฤติกรรมยั่วยุและเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทย ทางเพจเผยว่าได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะในหลายพื้นที่ รวมถึงพบความพยายามของทหารกัมพูชาที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนามและมีการยิงปืน เพื่อตรวจสอบระยะทาง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายยั่วยุอย่างชัดเจน รมว.ต่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงเวทีโลกเย็นนี้นายสีหศักดิ์ พงศ์เกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก พบปะข้าราชการ โดยระบุถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าเย็นนี้ (25 ก.ย.) จะเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA รวมทั้งพบปะกับบุคคลสำคัญที่สำคัญ เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ในฐานะประธานอนุสัญญาออตตาวา เกี่ยวกับการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และจะพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่จะเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชนในวาระต่อไป ทั้งนี้ การพบปะในครั้งนี้ไม่ได้พบปะเพียงแค่พิธีการทูตเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” เข้าทำงาน กต.วันแรก จ่อบินแจงปมเขมรเวที UNGA

กระทรวงการต่างประเทศ 25 ก.ย.- “สีหศักดิ์” เข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก ให้กำลังใจข้าราชการ ย้ำ ต้องเป็น 4 เดือนที่มีความหมาย ทำงานให้เป็นเอกภาพ รับอาจแก้ไม่ได้หมด แต่หวังสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา คลี่คลายขึ้น ติง “เขมร” แทนที่จะพูดคุยกันเองก่อน แต่กลับยกไปพูดคุยในเวทีระหว่างประเทศ เตรียมบินด่วนแจงโลกเวที UNGA เย็นนี้ พบเลขาฯ ออตตาวาด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะทํางาน เดินทางเข้ากระทรวงการต่างประเทศวันแรก หลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี และเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดยได้สักการะพระพุทธราชไมตรีศรีสัมพันธ์ ศาลพระภูมิประจํากระทรวง พระรูปสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ และเทพธิดาบัวแก้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ จากนั้น ได้พบปะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประจำกระทรวงการต่างประเทศ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่รับหน้าที่ จึงถือโอกาสนี้มาทักทายข้าราชการ […]

นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น กลไกสร้างการเติบโตทางศก.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 ก.ย.- นายกฯ พบตลาดทุนไทยชื่นมื่น เหมือนได้พบกัลยาณมิตร เป็นแหล่งระดมทุน สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ในหัวข้อ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” นายอนุทิน​ กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า​ วันนี้ตั้งใจมาพบทุกท่านถึงอาคารตลาดหลักทรัพย์​ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตื่นเต้นนอนไม่หลับ​ มาตั้งแต่ 09.00 น. เพราะทราบดี​ ​จะได้มาพบกับกัลยาณมิตร​ที่ดี​ เพื่อนที่หวังดีต่อกันตลอดเวลา​ และความสัมพันธ์ของเราก็พัฒนาไป แต่ละคนก็มีหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง​ แม้จะอยู่ในภาคเอกชน​ ตลาดทุน​ แต่พวกเราในฐานะรัฐบาลก็มีหน้าที่ในการสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือในทุกทาง ที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จมากที่สุด​ “ท่านเป็นแหล่งระดมทุนให้กับประเทศ เป็นกลไกในการสร้างการเจริญเติบโตกับทางเศรษฐกิจ​ ว่าประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคั่งในระดับไหน เป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในต่างประเทศ” นายอนุทิน กล่าว -สำนักข่าวไทย