เตือนน้ำทะเลหนุนสูง 25–30 เม.ย. เร่งเจือจางค่าความเค็มฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ

กรุงเทพฯ 25 เม.ย.- สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 25 – 30 เม.ย. 67 ส่วนปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำในจ. ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ เร่งสูบระบายน้ำที่ค่าความเค็มเกินมาตรฐานออกทะเลและรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำสำหรับเจือจางและไล่น้ำเค็ม


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)กล่าวว่า เร่งคลี่คลายสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำเข้าสู่คลองประเวศบุรีรมย์และคลองสาขา ตามที่เกิดเหตุการณ์ทำนบดินชั่วคราวปิดกั้นคลองประเวศบุรีรมย์พังทลาย ส่งผลกระทบให้น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามา โดยเฉพาะใน อ. เมืองฉะเชิงเทรา อ. บ้านโพธิ์ อ. บางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา และอ. บางบ่อ จ. สมุทรปราการ โดยสทนช. จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการจัดการทรัพยากรน้ำชั่วคราวในภาวะวิกฤติ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต จ. ฉะเชิงเทรา เพื่อบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบระบายน้ำที่ค่าความเค็มเกินมาตรฐานออกทะเลและรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำสำหรับเจือจางและไล่น้ำเค็ม

นอกจากนี้ยังมีการใช้จุลินทรีย์จากธรรมชาติหรือ EM เพื่อบำบัดคุณภาพน้ำลดค่าความเค็มตามที่กรมประมงได้จัดทำแผนที่แสดงค่าความเค็มที่เหมาะสมในแต่ละคลอง สำหรับให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำสามารถสูบน้ำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย ขณะนี้คุณภาพน้ำในแต่ละพื้นที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับค่าความเค็มที่ตรวจวัดเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 67 โดยบริเวณคลองเปร็งจากเดิม 19.63 กรัมต่อลิตร เหลือเพียง 0.88 กรัมต่อลิตร คลองประเวศบุรีรมย์จาก 28.04 กรัมต่อลิตร เหลือ 6.51 กรัมต่อลิตร คลองชวดพร้าวจาก 14.40 กรัมต่อลิตร เหลือ 2.55 กรัมต่อลิตร โดยเหลือเพียงบริเวณคลองพระยานาคราช 1 และ 2 และคลองพระยาสมุทรที่ยังมีค่าความเค็มสูง จากการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มประสิทธิภาพ คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้


สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคที่แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน  น้ำเพื่อการเกษตรที่แม่น้ำท่าจีน ณ สถานีประตูระบายน้ำปากคลองจินดาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแม่น้ำแม่กลอง ณ สถานีอัมพวาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แม่น้ำบางปะกง ณ สถานีวัดบางคางอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

สทนช. ออกประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 25 – 30 เม.ย. 67 โดยให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและไม่มีแนวคันกั้นน้ำ (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่ จ. สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ส่วนการเฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร ให้เฝ้าระวังบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา แม่กลอง ท่าจีน และบางปะกง

นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำในจ. ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการดีขึ้นตามลำดับ โดยเปิดรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองเปรมประชากรและประตูระบายน้ำบึงฝรั่ง เพื่อเจือจางค่าความเค็ม พร้อมบูรณาการร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ. สมุทรปราการ v. บางบ่อ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำคันดินชั่วคราว พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณต. บางพลีน้อย 2 จุดและต. บ้านระกาศ 2 จุด เร่งสูบระบายน้ำเค็มออกจากพื้นที่แอ่งกระทะและสูบจากคลองพระยานาคราชลงสู่คลองบางพลีน้อย ก่อนที่จะผลักดันน้ำออกสู่ทะเลผ่านประตูระบายน้ำนางหงส์และสถานีสูบน้ำพระยาวิสูตร


ขณะเดียวกันสูบน้ำในคลองสาขาต่างๆ ผ่านสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตรและคลองด่าน เมื่อน้ำจากทางตอนบนไหลลงมา เพื่อผลักดันน้ำเค็มให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ยังเร่งเติมน้ำเข้าสู่คลองระพีพัฒน์เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร อ. หนองเสือ จ. ปทุมธานี หลังจากที่น้ำส่วนหนึ่งถูกลำเลียงจากพื้นที่ตอนบนลงมาช่วยผลักดันน้ำเค็มในคลองประเวศบุรีรมย์ จ. ฉะเชิงเทรา เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศที่ได้รับความเสียหายจากน้ำเค็มอย่างเร่งด่วน ประกอบกับสภาพอากาศในปัจจุบันค่อนข้างร้อนและอยู่ในช่วงปลายฤดูแล้ง ทำให้มีการใช้น้ำในคลองส่งน้ำมากกว่าปกติ ทำให้ระดับน้ำในคลองที่อ. หนองเสือลดลงอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันปริมาณน้ำบางส่วนจากทางตอนบนได้ไหลลงมาถึงพื้นที่ตอนล่างแล้ว เพื่อทดแทนน้ำที่ระบายออกไปก่อนหน้านี้ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือจึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำลงสู่คลองระพีพัฒน์แยกตกเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ใช้น้ำในภาพรวม ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองเพิ่มสูงขึ้น กระจายน้ำเข้าไปยังคลองชลประทานที่เชื่อมต่อกับคลองหลักได้แล้ว พร้อมกับจัดรอบเวรการสูบน้ำเพื่อให้ได้รับน้ำอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ยังวางแผนติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณปากคลองเพิ่มเติม เพื่อให้พื้นที่ด้านท้ายคลองได้รับน้ำอย่างทั่วถึงด้วย จึงขอให้มั่นใจว่า เส้นทางที่น้ำไหลผ่านจะไม่ได้รับผลกระทบต่อการใช้น้ำในพื้นที่

สำหรับภาวะน้ำทะเลหนุนสูงช่วงวันที่ 25 – 30 เม.ย. นี้ จะไม่กระทบต่อการแก้ปัญหาค่าความเค็มที่จ. ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการเนื่องจากทำทำนบปิดกั้นและปิดประตูระบายน้ำ ไม่ให้น้ำเค็มเอ่อท้นเข้ามาใหม่ ขณะเดียวกันเร่งสูงน้ำในพื้นที่ออกและเร่งผลักดันสู่ทะเล. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า