กรุงเทพฯ 9 มี.ค.- อธิบดีกรมชลประทานระบุ ยังคงเปิดรับสมัคร “โครงการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร” โดยรับได้อีกเกือบ 35,000 คน เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้จากการว่างเว้นทำการเกษตรในฤดูแล้ง ย้ำโครงการชลประทานต่างๆ จะทยอยปรับลดการส่งน้ำหลังเก็บเกี่ยวนาปรังแล้ว ขอให้เกษตรกรไม่ปลูกข้าวต่อเนื่อง แต่สามารถสมัครเข้ารับจ้างแรงงานกับกรมชลประทาน เพื่อให้มีรายได้จนกว่าเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า “โครงการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตามนโยบายช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ทดแทนจากการว่างเว้นการทำการเกษตรในฤดูแล้งของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการจ้างแรงงานแล้ว 51,652 คน จากจำนวนรับสมัครทั้งสิ้น 86,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 60.06 โดยมีวงเงินจ้างแรงงานตลอดโครงการ 5,336.4732 ล้านบาท ปัจจุบันใช้งบประมาณจ้างแรงงานแล้ว 1,350.6789 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.31 จังหวัดที่มีผลการจ้างแรงงานมากที่สุด 3 ลำดับแรกได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี 3,725 คน จังหวัดสกลนคร 2,685 คน และจังหวัดเชียงใหม่ 2,587 คน
ทั้งนี้เกษตรกรผู้สนใจยังสามารถสมัครได้อีก 34,348 คนในการปฏิบัติงานด้านชลประทานได้แก่ ซ่อมแซม บำรุงรักษา ขุดลอก ปรับปรุงงานชลประทาน โครงการส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานก่อสร้างแหล่งน้ำและระบบส่งน้ำเพื่อชุมชน แก้มลิง การจัดการคุณภาพน้ำ รวมทั้งโครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ เป็นต้น
สำหรับระยะเวลาจ้างแรงงาน 3 – 10 เดือน วงเงินค่าจ้างอยู่ระหว่าง 26,100-87,000 บาท/คนขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ้างของแต่ละคน โดยเกณฑ์การจ้างแรงงานจะพิจารณากลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่มได้แก่ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรหรือเกษตรกรในพื้นที่ สมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำของกรมชลประทานในพื้นที่ ประชาชนและผู้ใช้แรงงานทั่วไป และหากแรงงานในพื้นที่มีไม่เพียงพอให้พิจารณาจ้างเกษตรกรหรือแรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงจากหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และลุ่มน้ำตามลำดับ
นายประพิศกล่าวว่า “โครงการจ้างแรงงานชลประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร” สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ขาดรายได้จากการว่างเว้นทำการเกษตรช่วงฤดูแล้ง ดังนั้นขอเชิญชวนเกษตรกรและประชาชนทั่วไปสมัครเข้าร่วมโครงการซึ่งยังสามารถรับเพิ่มได้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่กำลังจะเก็บเกี่ยวนาปรัง ขอความร่วมมือไม่ปลูกข้าวต่อเนื่องเพราะจำเป็นต้องประหยัดน้ำเพื่อสำรองน้ำต้นทุนไว้ หากเกิดฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทานจะทยอยปรับลดการส่งน้ำหลังแต่ละพื้นที่เก็บเกี่ยวนาปรังเสร็จ แต่เกษตรกรสามารถสมัครมารับจ้างแรงงานในโครงการของกรมชลประทานเพื่อให้มีรายได้ต่อเนื่องจนกว่าจะเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่
เกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือสมัครได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือทางสายด่วนกรมชลประทาน 1460.-สำนักข่าวไทย