“มนัญญา” เยือนลาวทำ MOU ความร่วมมือด้านการเกษตร

กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – รมช. มนัญญาเดินทางเยือนประเทศลาวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ของลาว โดยจะจัดทำ MOU ความร่วมมือด้านการเกษตร เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกอบด้วย นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และนายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมทั้งผู้ประกอบการจากภาคเอกชนเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเพื่อหารือความร่วมมือด้านการเกษตร ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 25-28 มกราคม 2566

นางสาวมนัญญากล่าวว่า จะเข้าเยี่ยมคารวะ รัฐมนตรีกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ของลาวเพื่อเปิดโอกาสหารือโครงการร่วมกันระหว่างกรมวิชาการเกษตรและกรมปลูกฝังของลาวซึ่งจะมีความร่วมมือด้านมาตรการสุขอนามัยพืช การอำนวยความสะดวกทางการค้า การจัดตั้งคณะทำงานร่วมไทยลาว (Working Group) ด้านวิชาการเกษตรและการกักกันพืช โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้แก่ โครงการศูนย์พัฒนาและบริการกสิกรรมแขวงสะหวันเขต โครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยชอน-ห้วยชั้ว โดยการนำเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรไปขยายผลสู่พื้นที่เป้าหมาย


การหารือเพื่อความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ทั้ง 2 ประเทศจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เส้นทางรถไฟ ไทย-ลาว-จีน ที่ไทย ไม่ได้มองว่า ลาวเป็นทางผ่าน แต่มองว่า เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ที่จะขยายสินค้าจากไทยไปยังจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ จึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามนโยบายของพลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

สำหรับสปป. ลาวเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 18 ของไทย โดยใน ปี 2565 ไทย – ลาว มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนทั้งหมด 5.5 แสนล้านบาท เป็นการส่งออกจากไทย 3.13 แสนล้านบาท และนำเข้าจากลาว 2.35 แสนล้านบาท

ด่านศุลกากรที่สำคัญอันดับ 1 คือ ด่านมุกดาหาร มีมูลค่า การค้าชายแดนและผ่านแดน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกและนำเข้าถึง 2.24 แสนล้านบาท รองลงมาคือ ด่านหนองคาย นครพนมและด่านเชียงของตามลำดับ


การค้าชายแดนด้านสินค้าเกษตรที่มีใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านแดนทางบกไทย –ลาว ใน ปี 2565 ปริมาณรวม 1.1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3.5 พันล้านบาท สินค้าเกษตรส่งออกไปลาวที่สำคัญคือ ไม้และผลิตภัณฑ์ กากและของเหลือจากพืช อาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์ ข้าว ผลไม้สด เป็นต้น

สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านแดนจากลาวไปจีน  มีปริมาณรวม 8.06 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 5.66 หมื่นล้านบาท ผ่านด่านตรวจพืชเชียงของ ด่านตรวจพืชนครพนม ด่านตรวจพืชมุกดาหาร และ ด่านตรวจพืชหนองคายตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก