เกษตรฯ เดินหน้าพัฒนาพันธุ์พืชด้วยเทคโนโลยีจีโนม

กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – กรมวิชาการเกษตรเดินหน้าพัฒนาพันธุ์พืชด้วยเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนและแก้ไขรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตหรือ GEd ขณะนี้มีพันธุ์พืชที่ใช้เทคโนโลยี GEd ซึ่งได้รับการอนุมัติใช้ประโยชน์เพื่อรองรับวิกฤตการณ์ความมั่นคงทางอาหารของโลกแล้ว 3 ชนิด ล่าสุดกรมวิชาการเกษตรร่วมมือกับภาคเอกชนที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีในการพัฒนาทดสอบในสภาพแปลงทดลอง


นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวทางในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางภาคเกษตรและอาหารของโลกซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและของศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง ภาวะโลกเดือด หรือศัตรูพืชอุบัติใหม่ โดยภาครัฐมีหน้าที่วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือหาแนวทางในการป้องกันและดูแลที่เหมาะสมสำหรับภาคการเกษตรให้รอดพ้นในทุกสถานการณ์

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์พืชเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็น Seed hub ซึ่งเทคโนโลยีจีโนม (Gene Editing) หรือ GEd จะช่วยยกระดับรายได้ 3 เท่าของ 4 ปี ของเกษตรกรไทยได้อย่างแท้จริง


สำหรับเทคโนโลยี GEd เป็นเทคนิคในการปรับเปลี่ยนและแก้ไขรหัสพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ที่มีความจำเพาะและแม่นยำ หรือแก้ไขให้ได้ยีนที่มีลักษณะตามต้องการ ไม่มียีนถ่ายฝากจากสิ่งมีชีวิตอื่น ไม่จัดว่าเป็นพืชดัดแปลงพันธุกรรม หรือ GMOs มีความปลอดภัยสูง มีศักยภาพ ใช้ระยะเวลาสั้น ต้นทุนต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการประกาศใช้นโยบาย no transgene = not GMOs โดยถือว่าพืช GEd มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับพืชปกติทั่วไป ซึ่งองค์กรนานาชาติ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ให้การยอมรับและสนับสนุน ที่สำคัญหลายประเทศทั่วโลกได้เร่งลงทุนงานวิจัยพัฒนาและอนุมัติการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GEd ในเชิงการค้าและการบริโภคได้แก่ แคนาดา อเมริกา บราซิล อาร์เจนตินา ชิลีญี่ปุ่น จีน อังกฤษ ฟิลิปปินส์เคนยา รัสเซีย และออสเตรเลีย

ส่วนพืชจากเทคโนโลยี GEd ที่ได้รับการอนุมัติใช้ประโยชน์เพื่อรองรับวิกฤตการณ์ความมั่นคงทางอาหารของโลกได้แก่ มะเขือเทศ (ญี่ปุ่น) ถั่วเหลือง (สหรัฐอเมริกา) กล้วย (ฟิลิปปินส์) ทั้งนี้ยังมีพืชที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติเชิงพาณิชย์หรืออยู่ในขั้นการศึกษาวิจัยเช่น มันฝรั่งปรับแต่งจีโนมต้านทานโรค (สหรัฐอเมริกา) ถั่วเหลืองโปรตีนสูงปรับแต่งจีโนมและมะเขือเทศปรับแต่งจีโนมทนแล้งและเพิ่มผลผลิต (จีน) เป็นต้น

ข้อดีของเทคโนโลยี GEd คือ สามารถแก้ไขรหัสพันธุกรรมของยีนเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว สามารถปรับปรุงให้พืชมีความแข็งแรงทนทานต่อภัยคุกคามด้านสภาพภูมิอากาศและศัตรูพืชอุบัติใหม่ ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรและปุ๋ย อีกทั้งช่วยทำให้ผลผลิตมีปริมาณสูงและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและรองรับวิกฤตโลกเดือด


กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายด้านการวิจัยการปรับแต่งจีโนมระดับประเทศ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยและภาคราชการต่างๆ เพื่อสร้างพืช GEd ทดแทนการนำเข้า เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง พืช GEd พลังงาน เช่น อ้อย ปาล์มน้ำมัน รวมถึงพืช Ged ผักและสมุนไพร พร้อมทั้งสนับสนุนส่งเสริมให้มีการปรับปรุงพันธุ์และพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ ส่วนในระดับนานาชาติ กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมความพร้อมสร้างความร่วมมือและเครือข่ายกับต่างประเทศ ในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี GEd เพื่อพัฒนาสายพันธุ์พืช GEd และพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยกับสถาบันในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น เป็นต้น

นอกจากนี้กรมวิชาการเกษตรได้ผสานความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ส่งเสริมในด้านการวิจัยและการกำกับดูแล เพื่อพัฒนาสิ่งมีชีวิตที่ได้จากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม สู่การใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ยกระดับพัฒนาศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งภาคการเกษตรของประเทศ ให้สามารถรองรับวิกฤตความมั่นคงทางอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภาวะโลกเดือดที่กำลังเกิดขึ้น รวมถึงยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเกษตรและอาหารของโลก พร้อมสนับสนุนเร่งวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืชด้วยเทคโนโลยี GEd โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณวิจัย สวก. และ สกสว. ในการส่งเสริมพัฒนานักวิจัยไทยไปเรียนรู้เทคโนโลยีที่สหรัฐอเมริกา รวมถึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีในการพัฒนาทดสอบในสภาพแปลงทดลองซึ่งคาดว่า ในปี 2568 จะสามารถนำร่องขับเคลื่อนด้านการกำกับดูแลได้อย่างเป็นรูปธรรม. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้