กรุงเทพฯ 1 ต.ค.- กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เนื่องจากมีน้ำเหนือไหลลงมาปริมาณมาก ด้วยอิทธิพลของพายุ “โนรู” แม้แบ่งน้ำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว แต่ยังจำเป็นต้องระบายเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนสูงขึ้น
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทเนื่องจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) คาดการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคมจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 2,600 – 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพราะมีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนส่งผลให้มีน้ำเหนือลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่ม
น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะไปรวมกับน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นเช่นกัน แล้วไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา โดยกรมชลประทานได้แบ่งน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอย่างเต็มศักยภาพของคลองที่สามารถรองรับน้ำได้ แต่ยังจำเป็นต้องทยอยระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. วานนี้ (30 กันยายน) จากอัตรา 2,519 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็น 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเช้าวันนี้ (1 ตุลาคม) ยังคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
การปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนสูงขึ้นจึงย้ำให้โครงการชลประทานในลุ่มน้ำเจ้าพระยาติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำท่าเพื่อนำมาวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย
