กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – กรมชลประทานจะปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เนื่องจากฝนตกหนักเหนือเขื่อนด้วยอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “โนรู” จะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น 1.50-1.80 เมตร แจ้งเตือน 3 จังหวัด ย้ำน้ำไม่ทำให้ล้นตลิ่งแม่น้ำป่าสัก ส่วนที่เขื่อนพระรามหกยังระบายในอัตราไม่เกินเกณฑ์ควบคุมการที่ 550 ลบ.ม./วินาทีจึงไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเช่นกัน
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า อิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “โนรู” ทำให้ฝนตกบริเวณต้นน้ำของลุ่มน้ำป่าสัก ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจากอัตรา 200 ลบ.ม.ต่อวินาทีเป็น 300 ลบ.ม.ต่อวินาทีตั้งแต่เวลา 06.00 น. พรุ่งนี้ (30 ก.ย.)
สำหรับการปรับเพิ่มในอัตราดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักท้ายเขื่อนสูงขึ้นจากปัจจุบัน 1.50-1.80 เมตร แต่ยืนยันว่า ระดับน้ำยังอยู่ในลำน้ำ ไม่ล้นตลิ่ง แต่ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยาให้ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชน
น้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะไหลต่อไปยังเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งวันนี้ระบายที่ 492 ลบ.ม./วินาที ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 6.90 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (เมตร รทก.) ดังนั้นจึงยังต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมซึ่งกำหนดอัตราการระบายไม่ให้เกิน 550 ลบ.ม./วินาทีและระดับน้ำท้ายเขื่อนไม่ให้สูงกว่า 7.30 เมตร รทก. เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน.-สำนักข่าวไทย