กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอีกครั้ง เนื่องจากน้ำเหนือมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อีกทั้งต้องเพิ่มพื้นที่หน้าเขื่อนรองรับน้ำจากฝนที่จะตกเพิ่มด้วยอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โนรู” โดยให้คงการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพื่อบรรเทาผลกระทบพื้นที่ท้ายลุ่มน้ำเจ้าพระยา
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ปริมาณน้ำเหนือในแม่น้ำปิง วัง ยม และน่านไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกหนักและหนักมากในหลายพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาบริเวณด้านท้าย 4 เขื่อนหลักได้แก่ เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า พายุโซนร้อน “โนรู” บริเวณบริเวณแขวงเซกอง ประเทศลาว จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยคืนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นและจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ปัจจุบัน (28 ก.ย.) ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 2,100 ลบ.ม./วินาที จึงทยอยปรับเพิ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นอัตราไม่เกิน 2,200 ลบ.ม./วินาทีในเวลา 14.00 น. แล้วคงอัตราดังกล่าวนี้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายลุ่มเจ้าพระยาจึงให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์คงอัตราการระบายที่ 180 ลบ.ม./วินาที
พร้อมกันนี้ย้ำให้โครงการชลประทานทุกแห่งในลุ่มเจ้าพระยาและป่าสักติดตามสภาพอากาศในช่วงที่มีพายุ “โนรู” เข้าสู่ประเทศไทยและปรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพน้ำฝน-น้ำท่าด้วย.-สำนักข่าวไทย