สสน. ย้ำต้องเตรียมแผนอพยพประชาชนพื้นที่เสี่ยง เลี่ยงอุทกภัย-วาตภัย

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.-ผู้อำนวยการ สสน. ย้ำพายุ “โนรู” มีอิทธิพลให้ฝนตกทั่วประเทศ แต่จะตกหนักในแนวพายุเคลื่อนผ่านและแนวปะทะของลม จึงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดและเตรียมแผนอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อให้ปลอดภัยจากทั้งอุทกภัยและวาตภัย


ดร. สุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือสสน. กล่าวว่า ขณะนี้พายุไต้ฝุ่น“โนรู” ซึ่งขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามเวลา 04.00 น. และได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศเวียดนามมายังประเทศลาวเมื่อเวลา10.00 น. โดยได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ยังคงมีทิศทางเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตก คาดว่า จะเข้าสู่ประเทศไทยคืนนี้ โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงต่อไป

ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นแนวฝนด้านหน้าของพายุ ตรงกับที่ได้คาดการณ์ไว้ว่า ส่วนใหญ่แนวฝนจะอยู่ด้านหน้าและด้านล่างของพายุ โดยวัดปริมาณฝนได้มากกว่า 90 มิลลิเมตร นอกจากนี้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นแนวที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ถูกเหนี่ยวนำให้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักด้วย โดยเฉพาะที่จังหวัดสตูล วัดปริมาณฝนได้มากถึง 107 มิลลิเมตร 


ปัจจุบันร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทย แล้วเสริมด้วยพายุ จึงจะทำให้ฝนตกทุกพื้นที่ โดยแนวพายุเคลื่อนผ่านจะมีฝนตกหนัก ดังนี้

– วันที่ 28-29 ก.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง

– วันที่ 29-30 ก.ย. เขาใหญ่ ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคเหนือ


– วันที่ 30 ก.ย. -1 ต.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง

ดร. สุทัศน์กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำที่มีน้ำต้นทุนมากอยู่แล้ว ดินชุ่มน้ำมาก จากฝนที่ตกด้วยอิทธิพลของร่องมรสุมและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ น้ำในลำน้ำต่างๆ มีปริมาณมาก ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลางหลายแห่งมีปริมาณน้ำมากเช่นกัน ช่วงที่พายุเข้ามา อาจทำให้มีน้ำไหลเข้าเพิ่มอีก แล้วต้องระบายออกตามมาตรฐานความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำ ซึ่งจะมาเพิ่มปริมาณน้ำในลำน้ำ ทำให้ล้นตลิ่ง หลายพื้นที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำ 3 ส่วนคือ ปริมาณน้ำต้นทุนในลำน้ำ ปริมาณน้ำท่าที่เพิ่มจากฝน และปริมาณน้ำที่ระบายจากอ่างเก็บน้ำ

ดังนั้น แนวทางบริหารจัดการน้ำระยะนี้ ต้องคำนึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เนื่องจากอาจเกิดทั้งอุทกภัยและวาตภัย จึงต้องมีแผนอพยพประชาชนในระยะสั้นๆ ช่วงที่พายุเคลื่อนผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลุ่มน้ำชีและมูล แม่น้ำชีจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำมูลที่จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นปลายน้ำ ระดับน้ำที่ท่วมอยู่แล้วจะมีน้ำสูงขึ้นอีกกว่า 1 เมตร จึงควรอพยพประชาชนและย้ายศูนย์พักพิงไปยังที่สูงกว่าเดิม ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีกำลังเร่งดำเนินการอยู่ เบื้องต้นอพยพไปแล้ว 2,000 ครอบครัว

นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า เร่งกำหนดพื้นที่ที่จะใช้เป็นศูนย์พักพิง สำหรับอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมาพักอาศัยชั่วคราว จากที่คาดการณ์ว่า ระดับน้ำแม่น้ำมูลจะสูงขึ้นกว่าระดับตลิ่ง 2.53 เมตรในวันที่ 4 ต.ค. ดังนั้นที่ตั้งของศูนย์พักพิงต้องสูงกว่าระดับตลิ่ง 3 เมตรขึ้นไปเพื่อให้มั่นใจว่า ประชาชนจะปลอดภัยและไม่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย พร้อมย้ำให้ประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนของศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนืออากาศร้อนจัด-ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ มีอากาศร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

เปิดโปง สร้างคดีอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรมหวังเงินประกัน

คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ อำพรางเพื่อหวังเงินประกัน 14 ล้านบาท ที่ จ.สกลนคร เมื่อคดีพลิกจากอุบัติเหตุ เป็นการลวงผู้เสียชีวิตไปฆ่า ซึ่งบริษัทประกันภัยพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนนำไปสู่การร้องให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีจนจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมขยายผลไปถึงเจ้าของสำนวน ความซับซ้อนของคดีนี้เป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีชี้แจงทุกเรื่องในชั้นศาล

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย กรณีสมาคมฟุตบอลฯ กับ สยามสปอร์ต ด้าน พล.ต.อ.สมยศ อดีตนายกสมาคมยืนยันพร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” ฟ้องเรียกคืน 360 ล้านบาท

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม