สำนักข่าวไทย 15 ส.ค.-รมว.สธ. เผยการจัดประชุมเอเปค ด้านสาธารณสุข 22-26 สิงหาคมนี้ เน้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการแพทย์และการสาธารณสุข และกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 และการประชุมคณะทำงานด้านสุขภาพของเอเปค (ครั้งที่ 2/2565)
นายอนุทิน กล่าวว่า ในปี 2565 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” สนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green (BCG) Economy) โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขของเขตเศรษฐกิจเอเปคภายใต้หัวข้อ “Open to partnership. Connect with the World. Balance Health and the Economy. หรือ เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์กับภาคี เชื่อมโยงกันกับโลก สู่สมดุลระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นการจัดประชุมด้านสาธารณสุขครั้งแรกของประเทศไทย (APEC Health Week) ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีสาธารณสุขจากเขตเศรษฐกิจเอเปค ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม เข้าร่วมแบบออนไซต์ และมี จีน จีนฮ่องกง เกาหลีใต้ และรัสเซีย เข้าร่วมในรูปแบบออนไลน์ รวมถึงมีผู้นำระดับสูงของหน่วยงานระหว่างประเทศ 3 ท่าน ได้แก่ 1. เลขาธิการอาเซียน 2. รองประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย และ 3. ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขาธิการเอเปค
โดยการประชุม ครั้งนี้มี 4 เป้าหมาย เพื่อระดมสมอง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการแพทย์และการสาธารณสุขและมี 10 กิจกรรม ได้แก่ การหารือทวิภาคีกับ 3 เขตเศรษฐกิจ, การประชุมวิชาการเรื่องครอบครัวคุณภาพและโรคมะเร็งปากมดลูก , การประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขและภาคเอกชนในรูปแบบการเสวนาเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ (Balancing Health and the Economy) โดยเฉพาะหลังสถานการณ์ระบาดโควิด 19 ที่จะต้องฟื้นตัวให้เร็ว และการประชุมโต๊ะกลม (Round Table) เรื่องการลงทุนด้านสุขภาพ (Investment in Global Health Security) เพื่อเป็นการกระตุ้นและตอกย้ำให้ทุกเขตเศรษฐกิจเพิ่มการลงทุนด้านสุขภาพ เพื่อรองรับการระบาดต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย