มะนิลา 7 ส.ค.- นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐให้ความมั่นใจกับฟิลิปปินส์ว่า สหรัฐจะให้การปกป้องหากฟิลิปปินส์ถูกโจมตีในทะเลจีนใต้
นายบลิงเคนแถลงขณะเยือนฟิลิปปินส์เมื่อวันเสาร์ว่า ข้อตกลงกลาโหมสหรัฐ-ฟิลิปปินส์ที่มีอายุนานถึง 70 ปี ยังคงมีความแข็งแกร่ง หากกองทัพ เครื่องบินและเรือสาธารณะของฟิลิปปินส์ถูกอาวุธโจมตี สหรัฐก็จะปฏิบัติตามพันธกิจกลาโหมในสนธิสัญญานี้ พร้อมกับย้ำว่า ฟิลิปปินส์เป็นมิตร หุ้นส่วน และพันธมิตรที่ไม่มีประเทศใดแทนที่ได้
ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์กล่าวต้อนรับนายบลิงเคนว่า เชื่อว่าการที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเยือนไต้หวันไม่ได้เพิ่มความตึงเครียดให้แก่สถานการณ์ที่เปราะบางอยู่แล้ว เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) มองว่า ประธานาธิบดีมาร์กอสเผชิญความท้าทายที่ไม่แน่นอนในการรักษาสมดุลระหว่างสหรัฐกับจีน เพราะฟิลิปปินส์เป็นแกนกลางในความเป็นปรปักษ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสองมหาอำนาจนี้ ขณะเดียวกันยังถูกกระแสในประเทศกดดันให้ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับจีนเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ โดยที่ไม่ทำให้ผู้นำจีนไม่พอใจ
นายเอ็นรีเก มานาโล รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์เผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้เชิญประธานาธิบดีมาร์กอสไปเยือน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจัดเตรียมตารางเวลาที่เหมาะสม ผู้นำฟิลิปปินส์วัย 64 ปี ไม่ได้เดินทางไปสหรัฐมานานกว่า 10 ปี เพราะมีเรื่องละเมิดอำนาจศาล กรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือกับศาลฮาวายในสหรัฐที่มีคำสั่งในปี 2538 ให้ครอบครัวมาร์กอสคืนเงินของรัฐ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71,500 ล้านบาท) ให้แก่ผู้ตกเป็นเหยื่อของรัฐในสมัยที่นายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ซีเนียร์ บิดาของเขาปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2508-2529 อย่างไรก็ดี สถานทูตสหรัฐในกรุงมะนิลายืนยันว่า ประมุขแห่งรัฐมีความคุ้มกันทางการทูต.-สำนักข่าวไทย