กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – บีโอไอแนะนักธุรกิจไทยหารือภาครัฐและเอกชนจากยูกันดา หนุนคนไทยลงทุนเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อาหารสัตว์ เครื่องหนัง พลาสติก เพื่อขยายตลาดสินค้าไทยในประเทศประชาคมแอฟริกาและกลุ่มตลาดร่วมแอฟริกาตะวันออกและใต้
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า วันที่ 7 เมษายนนี้ บีโอไอจะจัดการประชุมหารือร่วมกันระหว่างนักธุรกิจไทยและตัวแทนภาครัฐและเอกชนจากประเทศยูกันดา นำโดยนางบาร์บาร่า มัลวาน่า กงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำยูกันดา และกรรมการสมาคมผู้ผลิตแห่งยูกันดา นางโพรซี่ โฮป เอ็น คิคาบี เจ้าหน้าอาวุโสหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนแห่งยูกันดา ในโอกาสที่ทั้ง 2 คนเดินทางมาเยือนประเทศไทยและพร้อมจะให้ข้อมูลโอกาสทางการค้าการลงทุนระหว่างไทยและยูกันดา ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงต่อนักธุรกิจไทยที่สนใจและอยู่ระหว่างตัดสินใจเข้าไปทำธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้ ยูกันดาเป็นหนึ่งในประเทศตลาดใหม่ในทวีปแอฟริกาและประเทศเป้าหมายที่บีโอไอเล็งเห็นถึงความสำคัญและส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยพิจารณาถึงโอกาสและทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะเข้าไปลงทุน เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ พลังงานและแรงงาน ประกอบกับยูกันดาเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีอาณาเขตติดต่อกับ 5 ประเทศ ได้แก่ เคนยา คองโก รวันดา ซูดานใต้ และแทนซาเนีย รวมถึงได้สิทธิปลอดภาษีสำหรับสินค้าที่ผลิตในยูกันดาส่งออกไปยังกลุ่มประชาคมแอฟริกาตะวันออก ซึ่งมีสมาชิกถึง 6 ประเทศ ประชากรรวมกว่า 165 ล้านคน และกลุ่มตลาดร่วมแอฟริกาตะวันออกและใต้มีสมาชิก 19 ประเทศ ประชากรรวม 480 คน
สำหรับอุตสาหกรรมน่าสนใจที่ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุน ได้แก่ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด การผลิตอาหารสัตว์น้ำ เนื่องจากยูกันดามีพื้นที่ที่เป็นแม่น้ำและทะเลสาบถึงร้อยละ 18 ของพื้นที่ทั้งหมด แต่ยังขาดความรู้และเทคนิคดำเนินการอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสสำหรับการผลิตเครื่องหนัง สินค้าอุปโภคประเภท พลาสติก ที่ตลาดยังสามารถเติบโตได้ดี อย่างไรก็ตาม การเข้าไปดำเนินธุรกิจจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลรายละเอียดด้านต่าง ๆ รวมถึงปัญหาและอุปสรรค โดยมั่นใจว่าการพบปะและรับฟังข้อมูลโดยตรงจากผู้แทนของยูกันดาครั้งนี้จะทำให้นักธุรกิจไทยตัดสนใจได้ดียิ่งขึ้น .-สำนักข่าวไทย