ครบรอบ 64 ปี MEA พร้อมเพิ่มหัวชาร์จ EV 600 จุดใน 5ปี

กรุงเทพฯ 1ส.ค-MEA ครบรอบ 64 ปี ก้าวสู่ความท้าทาย “Challenging The Future” มุ่งสู่อนาคตใหม่ เดินหน้า”Smart Metro grid” นำร่อง 9 กม.กลางเมือง พร้อมติดตั้ง หัวชาร์จ EV เพิ่ม เป้าหมาย 600จุดใน 5ปี และย้ายสายไฟฟ้าลงดิน ย้ำแม้ใช้งบสูง แต่ไม่ผลักภาระให้ประชาชน


นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยในโอกาสครบรอบ 64 ปี วันคล้ายวันสถาปนาการไฟฟ้านครหลวง MEA โดยระบุว่า MEA พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวสู่ความท้าทายครั้งใหม่ตามแนวทาง “64 th MEA Chalenging The Future” ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมขับเคลื่อนระบบพลังงานอัจฉริยะ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าสูงสุดในทุกมิติ 

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 64 ปี MEA ได้ดำเนินการตามแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น  สามารถให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยปัจจุบันดำเนินโครงการ ที่สำคัญ เช่นโครงการ “Smart metro Grid” พื้นที่นำร่อง 9 ตารางกิโลเมตร บริเวณถนนพระราม 4 พญาไท เพชรบุรีและรัชดาภิเษก มีการติดตั้ง smart meter  จำนวน 33,2650ชุด  ทำให้สามารถเชื่อมโยงการบริหารจัดการด้านต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพทั้งการตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ การประมวลผลวิเคราะห์เพื่อวางแผนขยายหรือปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า และสามารถวิเคราะห์บริเวณที่เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องเพื่อให้เจ้าหน้าที่แก้ไขได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว 


ส่วนการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เป็นอีกนโยบายสำคัญที่ MEAมุ่งเน้นให้เกิดการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมพร้อมตอบสนองแผนงานด้านพลังงานในการส่งเสริมการใช้การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของไทย โดยปี 2565 เป็นเวลาครบรอบ 10 ปีที่ MEA ขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ EV โดยได้ศึกษาวิจัยพัฒนาระบบสถานีอาจประจุไฟฟ้าพร้อมจัดทำ MEA EV Application สำหรับการชาร์จและการเข้าถึงข้อมูลการใช้งาน และติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ภายโครงการ “มหานครสดใส ชาร์จไฟกับ กฟน.”ไปแล้ว 100หัวชาร์จ และมีแผนที่จะติดตั้งเพิ่มขึ้นปีละ100 หัวชาร์จ รวมภายใน 5 ปีมีเป้าหมาย เพิ่มหัวชาร์จประจุไฟฟ้าเป็น 600 หัวชาร์จ

ผู้ว่าฯ MEA ยังระบุด้วยว่า MEA มีแผนพัฒนาระบบบริการทั้งหมดให้เป็น fully digital service ภายในปี 2568  โดยมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผ่านระบบ e-service ในทุกช่องทางซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนไฟฟ้าดับผ่านapplication ให้ผู้ได้รับผล กระทบรับรู้ในรูปแบบรายบุคคล สอบถามผ่าน call center1130 ถึงเตรียมพร้อมฟังก์ชันรองรับ smart meter ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและการบริหารจัดการไฟฟ้าได้ในรูปแบบ real time 

ส่วนโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยมีโครงการรวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 236 กิโลเมตรมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2570  ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จรวม 62 กิโลเมตรพร้อมยืนยันค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด  ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ยกิโลเมตรละ 300-400 ล้านบาท จะใช้เงินจากงบบริหารจัดการของ MEA โดยจะไม่มีการผลักภาระไปยังค่าใช้ไฟของประชาชนแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

สีฐานเฟสติวัล สุดยอดเทศกาลลอยกระทง จ.ขอนแก่น

บรรยากาศงานลอยกระทง จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะภายในบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น คึกคัก มีประชาชนเดินทางมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง

“ยี่เป็งเชียงใหม่” คึกคัก นักท่องเที่ยวแน่น

บรรยากาศริมฝั่งลำน้ำปิง บริเวณหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ คึกคักไปด้วยชาวเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่มาลอยกระทงกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว คู่รัก หรือบางคนฉายเดี่ยว และยังเน้นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก

คึกคัก ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ

เริ่มแล้ว งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณราชวราราม ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมคึกคัก มีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน