กทม.4 เม.ย.- ทนายความวอน สงสาร”ผุสดี”ป้าแท็กซี่มหาภัย ก่อเหตุเพราะเครียดสะสม หลังสิ้นเนื้อประดาตัวจากธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ย่านสีลมจากม็อบการเมือง ซ้ำสามีทอดทิ้งต้องเลี้ยงดูส่งเสียลูก 2 คนเพียงลำพัง
นายวิเชียร เพชรจำนงค์ ทนายความนางผุสดี อัญชัญภาติ คนขับรถแท็กซี่ ที่ถูกดำเนินคดีจากพฤติกรรมที่แสดงกับผู้โดยสาร เปิดเผยหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้นว่า นางผุสดี มีฐานะเข้าขั้นร่ำรวย เคยเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น ย่านสีลม พอเกิดการประท้วงทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อหลายปีก่อน ทำให้การค้าขายย่านสีลมล่มสลายจึงถูกธนาคารยึดทรัพย์บ้านพักมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวอีกทั้งยังถูกสามีทอดทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ต้องหาเลี้ยงลูกสองคนตามลำพัง จนเกิดภาวะเครียดสะสม
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า นางผุสดี จะต่อสู้คดีลักทรัพย์เงินสด 10,000 บาทและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เนื่องจากไม่ได้ขโมยตามที่ผู้โดยสารกล่าวหา ยอมรับหลังส่งผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้เสียหาย แล้วนำรถส่งคืนสหกรณ์แท็กซี่ พบกระเป๋าสตางค์ผู้เสียหายตกอยู่เบาะนั่งด้านหลังคนขับจริง จึงเรียกเพื่อนแท็กซี่และเจ้าของอู่มาช่วยดู เมื่อเปิดดูไม่พบเงิน มีเพียงเอกสารทางราชการเท่านั้น และไม่พบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทางสหกรณ์แท็กซี่ได้นำส่งพนักงานสอบสวนสน. บางเขนไปแล้ว
นายวิเชียร ย้ำว่า นางผุสดี เป็นคนน่าสงสารหลังล้มละลายจากธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ต้องหันมาขับรถแท็กซี่หาเงินส่งลูก 2 คนเรียนมหาวิทยาลัย จากคนร่ำรวยกลายเป็นแค่คนขับรถแท็กซี่ หาเช้ากินค่ำและยังมีภาระอื่นอีกมากมาย ความกดดันที่สะสมมาเป็นเวลานาน ทำให้นางผุสดีกลายเป็นคนสองบุคลิก.-สำนักข่าวไทย