นายกฯ ชื่นชม “การบินไทย” เปิดบินตรงไทย-ซาอุฯ

กทม. 27 ก.ค.- นายกฯ ชื่นชมการบินไทยต่อยอดความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย เกิดผลเป็นรูปธรรม เปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพ-เจดดาห์ ดึงนักท่องเที่ยวเยือนไทยเพิ่มสิบเท่า และแสดงเจตนารมณ์ส่งเสริม Soft power กระตุ้นท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนใต้


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ตนได้เป็นตัวแทนรัฐบาลร่วมงานเปิดตัวเส้นทางใหม่ของการบินไทย “กรุงเทพ~เจดดาห์” เที่ยวแรกให้บริการ 19 สิงหาคม 2565 ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากคำชื่นชมไปยังบริษัทการบินไทย ที่ได้ต่อยอดความสัมพันธ์ “ไทย-ซาอุดีอาระเบีย” ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการที่นายกฯได้ไปเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบสามสิบกว่าปีของการเยือนระดับผู้นำรัฐบาล โดยการเปิดเส้นทางการบินเส้นนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงสัมพันธภาพที่ดียิ่งระหว่างสองประเทศ และระหว่างประชาชนต่อประชาชน รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่จะเพิ่มมากขึ้นตามมา มากไปกว่านั้น ทางการบินไทย ยังแสดงเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริม Soft power ของพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ครอบคลุมเรื่อง การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาหาร งานฝีมือชาวบ้าน ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเทียวซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางอีกด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าเส้นทางบินตรงกรุงเทพ-เจดดาห์ จะทำให้มีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นสิบเท่า จากเดิมที่มีประมาณ 3 หมื่นคนต่อปี ซึ่งต้องเดินทางผ่านประเทศอื่นก่อนเข้าไทย ทุกๆปี มีคนไทยเดินทางไปซาอุดีอาระเบียจำนวนมาก ทั้งคนไทยมุสลิม โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องจังหวัดชายแดนใต้ ที่เดินทางไปเพื่อแสวงบุญ และคนไทยที่ไปทำงาน ขณะที่ชาวซาอุดิอาระเบียมีความนิยมมารับการรักษาสุขภาพ ช้อปปิ้ง และท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างมาก ส่วนความน่าสนใจของเมืองเจดดาห์ คือ เป็นประตูหลักสู่เมกกะ เมืองท่าที่มีธรรมชาติอันสวยงาม และศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจของตะวันออกกลาง


สำหรับการส่งเสริม Soft power ตามนโยบายรัฐบาลนั้น นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะให้การสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะในฐานะสายการบินแห่งชาติ การบินไทยพร้อมร่วมขับเคลื่อนในเรื่องนี้ และที่ผ่านมา ทางบริษัทก็ได้ดำเนินการมาโดยตลอด และขณะนี้ได้วางแผนจะใช้เส้นทางกรุงเทพ-เจดดาห์ เพื่อการโปรโมทอัตลักษณ์ของพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่มีความโดดเด่นเรื่องสังคมพหุวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น และวิถีชีวิตชาวบ้าน ในเบื้องต้นจะร่วมมือกับภาครัฐ ในการดำเนินการ เช่น 1)การคัดเลือกสินค้าท้องถิ่นเข้าวางขายในร้าน “ไทยช็อป” ซึ่งมีลูกค้าจากทั่วโลกสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ 2)การศึกษาศักยภาพ วัตถุดิบท้องถิ่น เพื่อนมาต่อยอดให้บริการบนเครื่องบิน อาทิ เกลือหวานจากปัตตานี ลูกหยีนราธิวาส และกล้วยหินยะลา และ 3)การร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการพาผู้สื่อข่าวจากประเทศซาอุดิอาระเบีย มาทัศนศึกษาประเทศไทย และจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่อไป

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสำเร็จของบริษัทการบินไทย ที่นอกจากจะสามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างรวดเร็ว ยังริเริ่มเปิดเส้นทางการบินใหม่ที่เป็นทั้งโอกาสทางธุรกิจของบริษัท และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้านการท่องเที่ยวและด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นช่องทางสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยสู่ประเทศอื่นๆในภูมิภาคตะวันออกกลาง และที่สำคัญ การที่บริษัทฯยื่นมือเข้ามา โปรโมท Soft power ของจังหวัดชายแดนใต้ ถือเป็นตัวอย่างที่น่าประทับใจ เพราะนอกจากจะทำให้ต่างชาติเข้าใจถึงพหุสังคมวัฒนธรรมในท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการสร้างรายได้แก่ประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย” นางสาวรัชดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ