กรุงเทพฯ 6 ก.ค.- บอร์ด กพช. เห็นชอบให้ ปตท.จัดหา LNG สัญญาระยะยาวอีก 1 ล้านตัน/ปี จากสหรัฐ เพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ลดความผันผวนด้านราคา ในขณะที่ราคาตลาดจรขณะนี้ถีบตัวสูงขึ้น ไทยต้องใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้าอีกระลอก
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 5/2565 ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาข้อเสนอการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาวของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่าสถานการณ์ด้านพลังงานขณะนี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยคำนึงถึงหลักการ ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ขอให้ทุกฝ่ายติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางสื่อต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจ มีเหตุผลในการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ และต้องขับเคลื่อนสู่การประหยัดพลังงาน ที่จะเกิดผลตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง และส่งผลกับประชาชน ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย
นายธนกร กล่าวว่า กพช. มีมติเห็นชอบให้ บมจ.ปตท. จัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาว ปริมาณ 1 ล้านตันต่อปีนำเข้าในปี 2569 โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ในการจัดหา LNG มีหลักการและเหตุผลในการประเมินไว้ล่วงหน้า ทั้งความเสี่ยงของราคา ปริมาณการนำเข้า ซึ่งข้อเสนอการจัดหาก๊าซ LNG ของ ปตท. เป็นการลดความเสี่ยงในการจัดหา LNG ในอนาคต และเป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และขอฝากให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้ติดตามเรื่องราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในประเทศในอนาคต ส่งเสริมการแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมทั้งขอให้ กกพ. กำกับดูแลการจัดหา LNG ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเร่งดำเนินการต่อไป
และเพื่อจัดหาก๊าชธรรมชาติให้เพียงพอในระยะยาว และมอบหมายให้ กกพ. เป็นผู้กำกับดูแลให้ราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กพช. กำหนด และให้ ปตท. นำสัญญาซื้อขาย LNG สัญญาระยะยาว เสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการลงนามตามจัดซื้อ
ทั้งนี้ การจัดหา LNG สัญญาระยะยาวอีก 1 ล้านตันต่อปี เป็นนำเข้าจากสหรัฐ ในปี 2569 อายุสัญญา 15-20 ปี เป็นการจัดซื้อผ่าน บริษัท พีทีที โกลบอล แอลเอ็นจี จำกัด (PTTGL) ที่ซื้อจากบริษัทในสหรัฐ ในราคาอ้างอิง ราคาก๊าซแหล่ง HENRY HUB ที่สหรัฐ ที่มีราคาต่ำมาก โดย PTTGL จะคิดราคาขนส่งมาถึงท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งก็จะทำให้เป็นเช่นเดียวกับสัญญาระยะยาวที่ ปตท.มีข้อตกลงไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.2 ล้านตัน/ปีเป็นราคาส่งมอบที่ท่าเรือมาบตาพุดอย่างไรก็ตาม ราคาก่อนหน้านี้นั้นเป็นราคาที่อ้างอิงราคาน้ำมันเป็นหลัก
แหล่งข่าว จากวงการพลังงานระบุ การทำสัญญาระยะยาว ทำให้ต้นทุนราคาก๊าซลดความเสี่ยงในอนาคต และต้นทุนต่ำหากเกิดปัญหาราคาตลาดโลกผันผวนที่ปีนี้บางช่วงราคาทะยานถึง 80 เหรียญ/ล้านบีทียู และหากเปรียบเทียบเดือน ก.ค. 65 สัญญาระยะยาวมีราคาต่ำประมาณ 13-14 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ในขณะที่ราคาตลาดจร (สปอต) ปีนี้ผันผวนมาก ล่าสุดราคาขยับไปอยู่ที่ 43-44 เหรียญ/ล้านบียู ส่วนราคาอ่าวไทยอยู่ที่ประมาณ 6 เหรียญ/ล้านบีทียู ซึ่งจากปริมาณก๊าซฯ อ่าวไทย เพื่อผลิตไฟฟ้าในปีนี้ไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าแอลเอ็นจีสปอต 4.5 ล้านตัน เพื่อผลิตไฟฟ้าโดย กพช.ให้นโยบายว่า การนำเข้าแอลเอ็นจีสปอต เมื่อเปรียบเทียบกับราคาน้ำมันเพื่อผลิตไฟฟ้าแล้ว ราคาใดถูกกว่า ก็ให้ใช้เชื้อเพลิงประเภทนั้น ขณะนี้ราคาดีเซลแม้สูงก็มีราคาเพียง 30-35 เหรียญ/ล้านบียู ดังนั้น ในช่วงนี้จึงต้องจัดหาน้ำมันเพื่อมาผลิตกระแสไฟฟ้าทดแทนก๊าซฯ โดยเรื่องการนำเข้าแอลเอ็นจีสปอตนั้น ขึ้นอยู่กับการเห็นชอบของ กกพ. หาก กกพ.สามารถตัดสินใจให้นำเข้าช่วงราคาที่ต่ำอย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำลงไปด้วย .-สำนักข่าวไทย