ทำเนียบฯ 31 มี.ค.- นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลพร้อมทำตามกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ซึ่งมีข้อสังเกตให้ศึกษาการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ยืนยันทุกอย่างต้องเป็นตามขั้นตอน และพร้อมรับฟังทุกความเห็น วอนอย่าปิดล้อมสถานที่ราชการ ย้ำบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ว่าในฐานะของรัฐบาลพร้อมรับกฎหมายที่ออกมา ซึ่งรัฐบาลจะต้องปฎิบัติตามข้อสังเกตให้มีการศึกษาจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในการที่จะหาวิธีการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งต้องพิจารณาแบบอย่างของต่างประเทศ ควบคู่กันไปด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานไม่สามารถทำตามความรู้สึก หรือความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ จึงต้องสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกัน เพราะเรื่องพลังงานเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน มีความเชื่อมโยงกันทั้งหมด หากจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าดี ก็จะส่งผลดีไป แต่หากไม่ดี ก็จะส่งผลกระทบตามมาทั้งหมด ดังนั้น จึงต้องใช้แนวทางแก้ปัญหาทีละขั้นตอน และแก้ปัญหาทุกระดับ ซึ่งจะทำให้ปัญหาดีขึ้น หากยังประท้วง หรือล้มโครงการทั้งหมด ต้องคำนึงถึงระบบเศรษฐกิจทั้งหมดจะเดินไปอย่างไร
“การเสนอความคิดเห็น หรือต้องการให้รัฐบาลรับทราบความเดือดร้อนในเรื่องใด สามารถยื่นหนังสือมาได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม อย่ามาปิดล้อมสถานที่ราชการ หรือเขตพระราชฐาน เพราะจากนี้ ผมจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ได้ขู่ แต่ต้องรักษาระเบียบวินัยของบ้านเมือง ขณะนี้ประเทศไม่ได้มีปัญหาเรื่องพลังงานเรื่องเดียว แต่มีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ปัญหา ขอให้เชื่อใจกัน หากสิ่งไหนไม่ดี ขอให้บอก พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นในช่องทางที่ถูกต้อง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความระมัดระวังในการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานให้สำเร็จ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาซ้ำขึ้นมาอีก และไปกระทบกับงานอื่นๆ ที่ทำอยู่ ตนเป็นห่วงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจการค้า การลงทุน เพราะประเทศไทยมีด้านอื่นๆ ที่ต้องขับเคลื่อน และวันนี้รัฐบาลกำลังวางอนาคตให้กับประเทศ ทุกคนจึงต้องช่วยรัฐบาลพัฒนาประเทศ การจะศึกษาเรื่องใด จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน
“ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบวิธีการขั้นตอน ผมส่งเอกสารขั้นตอนให้ดูแล้วเมื่อวานนี้ ขั้นตอนก็เป็นแบบนั้น รัฐบาลรับทราบ เห็นชอบให้ดำเนินการศึกษาได้ เพราะเมื่อมีการพูดคุยพบปะกับประชาชนมาแล้ว ก็ว่ามา ถ้าทำได้ ก็ทำไป ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับท่าน แต่ทำอย่างไรจะไม่ไปมีผลกระทบเดิม ก็ต้องไปหาวิธีการให้ได้ ถ้าจะทำ แต่ต้องระมัดระวัง อย่าให้ธุรกิจใหญ่เสียหาย ขอแค่นั้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เสนอขอยกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย