กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-บริษัท แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่ (VLE) ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แจ้งถือครองกรรมสิทธิ์ ผลิตโตรเลียมหลังซื้อสิทธิ์ดังกล่าวจากมูบาดาลา สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรส เสร็จสมบูรณ์
VLE บริษัทสัญญชาติแคนาดา ซึ่งเป็นบริษัทถือครองสินทรัพย์นอกชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และที่ราบลุ่มเธรส (Thrace) ในประเทศตุรกี เปิดเผยว่าการเข้าถือครองกรรมสิทธิ์แปลงสัมปทานในอ่าวไทยได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่ได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อย บริษัท แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่เอเชีย จำกัด บริษัทฯ ถือครองกรรมสิทธิ์ร้อยละ 100 ของแปลงสัมปทานหมายเลข B5/27 แหล่งผลิตปิโตรเลียมจัสมินและบานเย็น ถือครองกรรมสิทธิ์ร้อยละ 90 ของแปลงสัมปทานหมายเลข G11/48 แหล่งผลิตปิโตรเลียมนงเยาว์ และถือครองกรรมสิทธิร้อยละ 70 ของแปลงสัมปทานหมายเลข G1/48 แหล่งผลิตปิโตรเลียมมโนราห์ โดยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสะสมนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 ได้รวมเข้ากับการถือครองกรรมสิทธิ์ในครั้งนี้ด้วย
ดร. ชอน เกสท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และผมรู้สึกขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงานให้เราประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในครั้งนี้ นอกจากนี้ผมขอต้อนรับพนักงานใหม่ของเราทุกคนเข้าสู่องค์กรของแวลูร่า และหวังว่าเราจะมุ่งไปสู่ความสำเร็จด้วยกันและร่วมดำเนินงานในฐานะบริษัทเอกชนผู้ผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และบริษัทตั้งใจที่จะค้นหาโอกาสในการเติบโตด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ปัจจุบันของบริษัทฯ (Organic growth) เช่นเดียวกันกับโอกาสในการเติบโตด้วยปัจจัยภายนอก (Inorganic growth) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แวลูร่าได้มอบหมายให้บริษัท Netherland, Sewell & Associates Inc. ทำการประเมินปริมาณสำรองปิโตรเลียมสำหรับแหล่งผลิตปิโตรเลียมทั้งหมดในประเทศไทย โดยนับจากวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 และจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในโอกาสต่อไป
บริษัท แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ที่ประเทศแคนาดา โดยมุ่งเน้นการสำรวจ พัฒนา และผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย และตุรกี พร้อมทั้งมุ่งมั่นในการค้นหาโอกาสในการเติบโตด้วยจากปัจจัยภายนอก (Inorganic growth opportunities) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ -สำนักข่าวไทย