ปลัด มท. ชี้แจงการปลดนายก อบจ.ปราจีนบุรี ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย

23 มิ.ย. – ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงการปลดนายก อบจ.ปราจีนบุรี ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังป.ป.ช.ชี้มูลความผิดครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนโดยมิชอบ


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ที่ได้ครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเขตป่าไม้ถาวรโดยมิชอบ ในพื้นที่ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานข้อเท็จจริงจากจังหวัดปราจีนบุรีว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้มีหนังสือขอรายงานและสำนวนการไต่สวนเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.แล้ว แต่ยังไม่ได้รับสำนวนจากสำนักงาน ป.ป.ช.กลับมา

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาพิจารณาแล้ว หากผลการสอบข้อเท็จจริงปรากฏหลักฐานตามสมควรว่ามีการจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ อันอาจจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีก็จะแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการสอบสวนตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 77 ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และอาจขยายเวลาได้อีกไม่เกิน 30 วัน รวมแล้วไม่เกิน 90 วัน เสนอผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาสั่งพ้นจากตำแหน่งภายใน 30 วัน


“การพิจารณามีขั้นตอนและกระบวนการเพื่อให้เกิดความรอบคอบรัดกุม ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานกรรมการ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพิจารณา หากผลการสอบข้อเท็จจริงปรากฏหลักฐานเบื้องต้นว่ามีการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 77 ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ก็จะแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการสอบสวน ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน แต่อาจขยายเวลาได้อีกไม่เกิน 30 วัน แล้วรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พิจารณาสั่งพ้นจากตำแหน่งต่อไป ในส่วนของความผิดทางอาญายังไม่ถือเป็นที่สุด ก็ต้องมีการดำเนินการกระบวนการทางกฎหมายอาญาต่อไปอีก” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรณีมีการเรียกร้องให้ปลดนายสุนทรออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ขณะนี้ยังถือว่าเร็วเกินไป เนื่องจากมีขั้นตอนของกฎหมายที่ต้องดำเนินการให้ครบเสียก่อน อย่างไรก็ตามกระทรวงมหาดไทยไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดก็ได้กำชับให้ทางจังหวัดเร่งดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จ เพื่อส่งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทยต่อไป . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง