fbpx

ทูตรัสเซียเชื่อรัสเซียจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน

ลอนดอน 29 พ.ค.- นายอังเดร เคลิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอังกฤษเผยกับสื่ออังกฤษว่า เขาไม่เชื่อว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในการทำสงครามกับยูเครน


นายเคลินให้สัมภาษณ์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซีว่า กองทัพรัสเซียมีระเบียบที่เคร่งครัดมากในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี โดยจะใช้เมื่อรัฐถูกคุกคามเท่านั้น ไม่ใช่ความขัดแย้งแบบที่กำลังเกิดขึ้นกับยูเครนในขณะนี้ บีบีซีอธิบายเพิ่มเติมว่า อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (tactical nuclear weapons) ใช้ในพิสัยค่อนข้างใกล้ ตรงข้ามกับอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ (strategic nuclear weapons) ที่สามารถยิงจากพิสัยไกลและอาจจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีครอบคลุมอาวุธหลายประเภท รวมถึงระเบิดและขีปนาวุธขนาดเล็กที่ใช้ในสนามรบ เชื่อกันว่ารัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีราว 2,000 ลูก ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียสั่งยกระดับความเตรียมพร้อมของกองกำลังนิวเคลียร์เป็นระดับสูง หลังจากเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ได้ไม่นาน จึงถูกมองว่าเป็นการเตือนว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน

สังหารหมู่ที่เมืองบูจา

เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอังกฤษยังได้ปฏิเสธเรื่องทหารรัสเซียระดมยิงปืนใหญ่ใส่พลเรือน และกล่าวถึงข้อกล่าวหาเรื่องทหารรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในเมืองบูจา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟเมื่อเดือนมีนาคมว่า เป็นการสร้างเรื่อง เพราะนายกเทศมนตรีเมืองบูจายืนยันในตอนแรกว่า ทหารรัสเซียออกจากเมืองไปแล้ว ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีศพบนถนน และเมื่อผู้ดำเนินรายการของบีบีซีถามย้ำว่า ทุกอย่างที่เห็นล้วนเป็นการสร้างเรื่องขึ้นหรือ เขาตอบกลับว่า รัสเซียมองว่าเป็นการสร้างเรื่องเพื่อขัดขวางการเจรจาเท่านั้น ยูเครนเผยว่า พบศพในเมืองบูชาประมาณ 1,000 ศพ ขณะที่สหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยว่า พบการสังหารพลเรือนอย่างผิดกฎหมายราว 50 ครั้ง และมีศพพลเรือนถูกฝัง 270 ศพ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย