นายกฯ ห่วงพื้นที่ฝนตกหนัก ย้ำหน่วยงานพร้อมรับมือ

กทม. 28 พ.ค.-นายกฯ ห่วงใยประชาชนภาคอีสาน-กลาง-ตะวันออก-ใต้ เตือนจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. เฝ้าระวังฝนตกหนัก ย้ำทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมืออย่างทันท่วงที

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ระหว่างวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2565 ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยารายงานพบว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย โดยลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยก็จะมีกำลังแรงขึ้น

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากย้ำเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมทุกมิติ ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรต่าง ๆ ในการดูแลช่วยเหลือประชาชน เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือได้ทันที พร้อมกันนี้ ขอให้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์ฝนตก ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักจนส่งผลให้เกิดน้ำท่วมด้วย

“นายกรัฐมนตรียังกำชับกระทรวงคมนาคม ให้มีการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศด้วย เช่น การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประบอุทกภัย การเตรียมความพร้อมทางรถ ทางเรือ และน้ำดื่มเพื่อแจกจ่ายประชาชน การจัดชุดปฏิบัติการ พร้อมเครื่องมือ เครื่องจักรออกแก้ไขน้ำท่วมบนเส้นทางเพื่อให้ยานพาหนะสามารถสัญจรผ่านได้ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้สัญจร ติดตั้งอุปกรณ์ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ ไฟวับวาบ แบริเออร์ เครื่องสูบน้ำและกระสอบทรายนำแนวป้องกันน้ำให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อให้ผู้ใช้เส้นทางสามารถเลี่ยงเส้นทาง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศแจ้งเตือนสภาพอากาศจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย