จาการ์ตา 19 พ.ค. – สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียแจ้งรัฐบาลในวันนี้ขอให้ทบทวนมาตรการห้ามการส่งออกน้ำมันปาล์ม ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเตือนว่า มาตรการดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเนื่องจากคลังเก็บน้ำมันปาล์มใกล้จะเต็มความจุที่มีแล้ว
อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลก สั่งห้ามการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ หรือ ซีพีโอ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผานมา เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันพืชสำหรับปรุงอาหารภายในประเทศที่พุ่งสูงมาก คณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซีย ซึ่งหารือกับนางศรี มุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซีย กล่าวในรายงานสรุปการประชุมว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาประเมินมาตรการห้ามการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ นางศรี มุลยานี ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า เธอจะหยิบยกเรื่องคำขอของคณะกรรมาธิการฯ ที่ให้ทบทวนการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม ไปหารือกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ในขณะเดียวกันอุตสาหกหรรมน้ำมันปาล์ม กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะต้องหยุดการผลิตน้ำมันปาล์ม หากยังไม่มีการยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มภายในสิ้นเดือนนี้ ซาฮัต สินากา ผู้อำนวยการบริการของสมาคมอุตสาหกรรมน้ำมันพืชของอินโดนีเซียให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์สว่า อินโดนีเซียมีความสามารถในการเก็บกักน้ำมันปาล์มได้ประมาณ 6 ล้านตั และเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม มีปริมาณน้ำมันปาล์มในคลังอยู่ที่ 5.8 ล้านตันแล้ว นายซาฮัต กล่าวว่า หากยังไม่มีการส่งออกน้ำมันปาล์มภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม ทุกอย่างจะหยุดชะงัก ถังเก็บน้ำมันปาล์มจะเต็มความจุ.-สำนักข่าวไทย