สยามพารากอน 19 พ.ค.-นายกฯ ย้ำไทยยังมีเสถียรภาพทางการเงินและการคลังที่ดี พร้อมรับมือกับวิกฤติที่ยืดเยื้อ ย้ำพยามแก้ปัญหาเต็มที่ ยอมรับบางอย่างไม่ทันใจประชาชน ขอให้อดทน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเชิงสร้างสรรค์ของคนไทย “Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาประเทศ และนำไปสู่การผลักดันให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเตรียมความพร้อมประเทศไทยสําหรับโลกหลังโดวิด-19
นายกรัฐมนตรี เริ่มต้นการแสดงวิสัยทัศน์ ย้อนเจ็ดปีที่ผ่านมาที่ตัดสินใจเข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศ ซึ่งบ้านเมืองมีเต็มไปด้วยปัญหา ไม่มีความสุข ยอมรับว่าเลี่ยงไม่ได้กับข้อครหา การไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ในช่วงรัฐบาล คสช. มีอำนาจพิเศษมากมาย แต่ได้ใช้อย่างจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม และองค์กรอิสระ ซึ่งหลังจากนั้น รัฐบาลไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ประเทศมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือนกว่า 40 ล้านคน
จากนั้นรัฐบาลได้มาจากการเลือกตั้ง มีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแผนภาพรวมใหญ่ที่จะทำให้ทุกภาคส่วนในสังคมเข้าใจและเห็นภาพบ้านของเราในอนาคต เดินไปสู่เป้าหมายที่ตรงกันภายใต้วิสัยทัศน์ ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และวางรากฐานของประเทศในทุกๆ ด้าน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นวิกฤติโลก ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการถดถอยทางเศรษฐกิจของทุกประเทศในโลก รวมถึงไทย เราถูกประเมินว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ในระดับต้นๆ ของโลก เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 20 ของ GDP ซึ่งในช่วงการแก้ปัญหา นโยบายต่างๆ ที่ออกมา ได้คำนึงถึงการสร้างความสมดุล ทั้งมิติด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องบริหารจัดการให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศ
“แม้เปิดประเทศแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องระมัดระวัง ยังต้องตระเตรียมความพร้อม ทั้งวัคซีนและยารักษาไว้อย่างเพียงพอ เพราะวิกฤตการณ์แพร่ระบาดยังไม่จบสิ้น ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์จากความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกภาคส่วน ทำให้องค์กรต่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงองค์การอนามัยโลก ได้ยอมรับและชื่นชมประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่รับมือกับสถานการณ์โควิดได้ดีที่สุดเป็นลำดับต้นๆ ของโลกและทั่วโลกได้เห็นศักยภาพระบบสาธารณสุขไทย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 มีผลให้ราคาสินค้า ราคาพลังงาน และค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น สร้างความหวาดกลัวว่าสงครามจะยืดเยื้อ สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ คือ การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เช่น วิกฤติพลังงาน สินค้าขาดแคลน ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด ได้มีมาตรการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน อาทิ การช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้ม การช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง การช่วยลดภาระค่าไฟฟ้า การตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตลอดจนการลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นต้น
“รัฐบาลตระหนักว่าสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ มีความไม่แน่นอน และอาจยืดเยื้อ โดยรัฐบาลจะติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง และพร้อมที่จะปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ และประชาชน ในระยะต่อไป ซึ่งแม้ไทยจะเจอกับเรื่องวิกฤติซ้อนวิกฤติ จากโรคโควิด-19 ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงเกิดความแตกแยกทางความคิด แต่รัฐบาลก็ยังเดินหน้าพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ประเทศไทยเองต้องมีการลงทุน และเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ โดยรัฐบาลมีความปรารถนาจะนำความสุขกลับมาสู่พี่น้องชาวไทยโดยเร็ว แต่วิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นวิกฤติโลก เป็นเรื่องที่เราไม่ได้ก่อ หรือจะทำให้จบด้วยตัวเราเองได้ สิ่งที่รัฐบาลสามารถให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนได้ คือ ประเทศไทยในวันนี้ ยังมีเสถียรภาพทางการเงินและการคลังที่ดี พร้อมรับมือกับวิกฤติที่ยืดเยื้อและการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตได้
“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ไม่ว่ารัฐบาลนี้ หรือรัฐบาลหน้า อาจจะทำงานไม่ทันใจ ก็ขอให้เข้าใจ เห็นความจริงใจทุกคน ที่มุ่งมั่นแก้ปัญหา ตั้งใจทำงาน ขอเพียงให้อดทน ร่วมมือ ร่วมใจกัน ไม่ใช่เวลาแห่งความขัดแย้ง หรือบ่อนทำลายชาติบ้านเมือง ยืนยัน ตนไม่นิ่งนอนใจและไม่เคยท้อแท้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เปิดนิทรรศการเพื่อพัฒนาประเทศที่ดีกว่าของภาครัฐและเอกชน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ซูโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อความยั่งยืน เร่งพัฒนาอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐานรองรับโลกยุคใหม่
สำหรับงานเสวนา“ถามมา – ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” นี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 พฤษภาคม 2565 ณ รอยัล พารากอน ฮอล์ สยามพารากอน โดยภายในงานจะมีการเสวนาในหัวข้อสำคัญ ได้แก่ “มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย” และ“ประเทศไทยก้าวต่อไปอย่างไร”.-สำนักข่าวไทย