ธปท. 21 ธ.ค. – นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยผลการประชุม ว่า กนง.มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.5 โดยประเมินว่าเศรษฐกิจภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน แม้ภาคการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบมากกว่าคาดจากการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายและการลงทุนภาคเอกชนโดยรวมยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แต่ถูกชดเชยโดยการส่งออกสินค้าที่มีสัญญาณดีขึ้นจากการย้ายฐานการผลิตสินค้าบางรายการมาที่ประเทศไทย รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้นตามรายได้เกษตรกรและมาตรการกระตุ้นระยะสั้นของภาครัฐ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัจจัยเสี่ยง คือ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐที่มีนัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นและการค้าระหว่างประเทศ และนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงประมาณ 2.2 ล้านคน ประกอบกับปัญหาทางการเมืองของยุโรปและปัญหาภาคการเงินในยุโรปและจีนยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กนง. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 2559 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 และปี 2560 จะขยายตัวร้อยละ 3.2 โดยมีปัจจัยหนุนจากการการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการออกงบเพิ่มในโครงการประชารัฐสร้างไทย การส่งออกสินค้าที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น และเม็ดเงินจากการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าขยายตัวถึงร้อยละ 1.6 ในปีหน้า ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ด้านมูลค่าการส่งออกปี 2559 คาดว่าจะติดลบร้อยละ 0.6 และปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0 หรือไม่ขยายตัวเลย
ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2559 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.2 ส่วนปี 2560 คาดอยู่ที่ร้อยละ 1.5 โดยประเมินอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยปรับสูงขึ้นและคาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในไตรมาสแรกปี 2560 ที่ร้อยละ 1 – 4 โดยยังคงต้องติดตามราคาน้ำมันและราคาอาหารสด ขณะที่ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สภาพคล่องการเงินยังอยู่ในระดับสูง โดยการที่ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐนั้น ถือว่าเป็นไปตามกลไกตลาดและอ่อนค่าน้อยกว่าคู่แข่งสำคัญโดยรวม ส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย.-สำนักข่าวไทย