ธปท. 9 พ.ย. – นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยผลการประชุม กนง. ครั้งที่ 7/2559 ว่า กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดย กนง.ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวต่อเนื่องในอัตราที่ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ก่อนหน้า แม้มีความเสี่ยงจากปัจจัยภายในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่ยืนยันยังไม่มีการปรับประมาณการเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจัยบวกที่เป็นแรงหนุนจากแนวโน้มการส่งออกที่เริ่มกลับมาเป็นบวกดีขึ้นตามลำดับ โดยได้รับอานิสงส์จากการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสมาร์ทโฟน ขณะที่ผลกระทบจากมาตรการจัดระเบียบผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ คาดจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง 200,000 คนในปีนี้ ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยเป็นเรื่องที่ กนง.ให้ความสำคัญและติดตามใกล้ชิด เพราะจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทย
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศจะเป็นเรื่องของพัฒนาการตลาดเงินจากปัจจัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินให้มีความผันผวน โดยสิ่งที่ กนง.เป็นห่วง คือ ภาคเอกชนที่จะต้องปรับตัวรับความผันผวนระยะสั้นของเงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนที่จะมีความผันผวนได้ ส่วนระยะยาวอาจจะต้องรอดูความชัดเจนของนโยบายด้านเศรษฐกิจและการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ก่อน จึงจะมีการประเมินภาพรวมและผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง
ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในระดับทรงตัว การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวดี ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยสินเชื่อกลุ่มเอสเอ็มอีและหนี้ภาคครัวเรือนยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคุณภาพหนี้ของกลุ่มดังกล่าวด้อยลง และความไม่แน่นอนของปัญหาภาคการเงินในยุโรปและจีนยังเป็นปัจจัยที่น่ากังวลและอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม วันที่ 21 พฤศจิกายนนี้จะมีการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3/2559 ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย