นนทบุรี 23 ธ.ค. – กรมการค้าต่างประเทศเผยญี่ปุ่นจ่อตัดสิทธิจีเอสพีสินค้าไทย 14 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.62 ยืนยันไม่กระทบผู้ประกอบการ เตรียมแก้เกมนำสินค้าที่ถูกตัดสิทธิ์เจรจาลดภาษีภายใต้ JTEPA ที่จะเริ่มมีการทบทวนตั้งแต่ปี 60
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นได้ทำการปรับเกณฑ์และเงื่อนไขใหม่ในการพิจารณาตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่ให้กับประเทศกำลังพัฒนา โดยญี่ปุ่นจะตัดสิทธิ จีเอสพีที่ให้กับสินค้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 มีสินค้าที่จะถูกตัดสิทธิ 14 รายการ มูลค่า 15.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 และในจำนวนนี้มีสินค้าเพียง 6 รายการที่จะได้รับผลกระทบจากการตัดสิทธิดังกล่าว คือ ซอร์บิทอล , กาแฟคั่วที่แยกคาเฟอีนออกแล้ว , เอทิลแอลกอฮอล์ที่ไม่ได้แปลงสภาพอื่นๆ , ไม้อัดพลายวูดอื่น ๆ , ไม้ลามิเนต และไม้บล็อคบอร์ด
สำหรับการติดตามแก้ไขปัญหาและเตรียมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น กรมฯ ได้เชิญผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าที่ขอใช้สิทธิจีเอสพีไปตลาดญี่ปุ่น 24 รายมาหารือและแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาสิทธิจีเอสพีของญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบการเพียง 1 ราย คือ ผู้ที่ส่งออกซอร์บิทอลไปญี่ปุ่น ส่วนรายอื่นไม่ได้รับผลกระทบ
“กรมฯ ได้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการแล้วว่ากระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ โดยกำหนดแนวทางการผลักดันการเจรจารายการสินค้าที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวไว้ในการทบทวนทั่วไปภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่จะมีขึ้นในปี 2560 และหากสามารถผลักดันให้เกิดการลดภาษีได้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2562 ไทยก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากการตัดสิทธิจีเอสพีของญี่ปุ่น”นางดวงพร กล่าว
ส่วนกลุ่มสินค้าที่จะนำขึ้นไปเจรจาในการทบทวนข้อตกลง JTEPA นั้น ประกอบด้วย กลุ่มรายการสินค้าที่จะนำมาเจรจาอีกครั้ง และกลุ่มสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากข้อผูกพันทางภาษี รวมถึงกลุ่มสินค้าที่ไทยถูกญี่ปุ่นตัดสิทธิจีเอสพีด้วย ซึ่งการตัดสิทธิจีเอสพีดังกล่าวไม่มีผลใด ๆ ต่อความตกลง JTEPA และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) ที่มีอยู่เดิม เพราะความตกลงดังกล่าวเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ ไม่เหมือนระบบจีเอสพี ซึ่งเป็นระบบที่ประเทศพัฒนาแล้วให้กับประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาน้อยที่สุดฝ่ายเดียว ขอให้ผู้ส่งออกวางใจได้ว่าการลดอัตราภาษีภายใต้ JTEPA และ AJCEP ยังคงอยู่เหมือนเดิม และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสินค้าหลายรายการอยู่ในกลุ่มที่มีการทยอยลดภาษีลงทุกปีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเกณฑ์และเงื่อนไขใหม่ในการพิจารณาการตัดสิทธิจีเอสพีญี่ปุ่น ประกอบด้วย เป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงตามที่ธนาคารโลกกำหนดติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยเกณฑ์ปี 2559 กำหนดให้มีมูลค่ารายได้ประชาชาติ GNI per capita ระหว่าง 4,036–12,475 ดอลลาร์สหรัฐ และมีสัดส่วนการส่งออกมากกว่าร้อยละ 1 ของปริมาณการส่งออกไปทั่วโลกเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 ปี ซึ่งจากเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้ไทยไม่ได้สิทธิจีเอสพีญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน2562 เนื่องจากไทยที่มี GNI 5,620 ดอลลาร์สหรัฐ และสัดส่วนการส่งออกไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2556-2558 ร้อยละ 1.21 1.20 และ 1.29 ตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย