กรุงเทพฯ 21 เม.ย.- อสมท จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เดินหน้าลงทุนธุรกิจเนื้อหารายการทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะโทรทัศน์และวิทยุ หลังประมูล 47 คลื่นวิทยุเอฟเอ็ม กว่า 540 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 กำไรสุทธิ 164 ล้านบาท
พล.ต.อ.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ประธานกรรมการ บมจ.อสมท พร้อมด้วยคณะกรรมการ บมจ.อสมท และรองศาสตราจารย์เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และคณะผู้บริหาร ร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 โดยจัดประชุมในรูปแบบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM)
วาระสำคัญของการประชุม คือ การรายงานผลการดำเนินกิจการของ บมจ.อสมท ประจำปี 2564, การพิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะการเงิน บัญชีกำไรขาดทุน สำหรับกรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด ณ 31 ธันวาคม 2564 โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบงดจ่ายเงินปันผล ประจำปี 2564 แม้ บมจ.อสมท จะมีผลกำไรในปี 2564 เนื่องจากผลประกอบการของ บมจ.อสมท ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.64 มีกำไรสุทธิ 164.27 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 165.24 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท แต่ยังมีความจำเป็นในการลงทุน โดยได้จ่ายค่าใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม ซึ่ง บมจ.อสมท ประมูลได้จำนวน 47 คลื่น เป็นเงินจำนวน 543.73 ล้านบาท จึงเห็นควรรักษาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจไว้เป็นสำคัญ
สำหรับการพิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกจากตำแหน่งตามวาระ จำนวน 4 คน ได้แก่ นายประเวศ อรรถศุภผล กรรมการอิสระ, นายไพบูลย์ ศิริภาณุเสถียร กรรมการอิสระ, นายบุญสน เจนชัยมหกุล กรรมการ และรองศาสตราจารย์เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท มีการเสนอให้ที่ประชุมลงมติพิจารณากรรมการทั้ง 4 คน กลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง
รองศาสตราจารย์เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เปิดเผยถึงการดำเนินกิจการของ บมจ.อสมท ในปี 2565 มุ่งเป้าไปที่การลงทุนด้านเนื้อหารายการ (Contents) ในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความนิยมและดึงดูดลูกค้า ซึ่งธุรกิจโทรทัศน์ยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับองค์กร ที่จะเน้น the generation of the trusted news เพิ่มพื้นที่ข่าวและคุณภาพข่าว มีสาระ น่าเชื่อถือ ส่วนด้านบันเทิง ก็จะเป็น smart entertainment บันเทิงอย่างมีสาระเช่นกัน
ขณะที่การดำเนินธุรกิจวิทยุ บมจ.อสมท ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ให้ใช้คลื่นความถี่และใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม อสมท จำนวน 47 คลื่น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.65 ที่ผ่านมา โดยจะเร่งสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ฟังและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อตอกย้ำถึงจุดแข็งของธุรกิจวิทยุที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ให้ความสำคัญกับความสามารถในการเพิ่มรายได้ การควบคุมค่าใช้จ่าย และความรับผิดชอบต่อสังคมในบทบาทของการเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ พัฒนาคุณภาพรายการ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และรวดเร็ว” ทั้งนี้ บมจ.อสมท ยังได้วางแผนที่จะประกอบธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจสื่อสารมวลชน เพื่อเป็นการสร้างแหล่งรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย