กรุงเทพฯ 16 ม.ค.-“วราวุธ” ชูนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร พัฒนาคน พัฒนาเมือง เวทีสุดยอดผู้นำบริหารแบรนด์เมือง-ผู้พัฒนานวัตกรรมสำหรับเมือง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมอภิปราย หัวข้อ “The Power of People Creates Powerful City Branding คนมีพลัง สร้างแบรนด์เมืองให้มีพลัง” ในงานประชุมสุดยอดผู้นำบริหารแบรนด์เมืองและผู้พัฒนานวัตกรรมสำหรับเมือง (World City Branding & Innovation Summit 2025) ซึ่งจัดโดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลสำคัญที่กระทรวง พม. นำมาขับเคลื่อน ได้แก่ 1.นโยบายเร่งด่วน คือ รัฐบาลจะส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของคนไทย และจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สร้างความเท่าเทียมทางโอกาส และเศรษฐกิจ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะในกลุ่มคนเปราะบาง เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิ และสวัสดิการของรัฐได้โดยสะดวกตามที่กฎหมายบัญญัติ 2.นโยบายระยะยาว คือ ทุนมนุษย์เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ จึงจำเป็นต้องเร่งส่งเสริม ผลักดันให้เกิดการพัฒนาในทุกช่วงวัย โดยเริ่มตั้งแต่การส่งเสริมให้มีการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ ปลดล็อคศักยภาพในทุกมิติ ยกระดับทักษะเพื่อการสร้างงานและสร้างรายได้ ส่งเสริมทักษะเดิม (Reskill) เพิ่มเติมทักษะใหม่ (Upskill) ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ และปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้มีการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างเหมาะสม
3.นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร ประกอบด้วย 1) เสริมพลังวัยทำงาน ให้ตั้งตัวได้ สร้างและดูแลครอบครัวได้ และพร้อมที่จะสูงอายุอย่างมีคุณภาพในอนาคต 2) เพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน เด็กอาจเกิดน้อย แต่ต้องเปี่ยมด้วยคุณภาพ 3) สร้างพลังผู้สูงอายุ ให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ให้ยังคงทำงาน และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า 4) เพิ่มโอกาสและสร้างเสริมคุณค่าของคนพิการ และ 5) สร้างระบบนิเวศ (Eco-system) ที่เหมาะสม เพื่อสร้างความมั่นคงในครอบครัวและสังคม
นายวราวุธ กล่าวว่า การที่จะสร้างเมืองที่มีอัตลักษณ์และมีพลัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาคน เพื่อให้เกิดเป็นพลังขับเคลื่อนให้ถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ วันนี้ กระทรวง พม. มีศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เพื่อช่วยเหลือประชาชนแบบเชิงรุกและเร่งด่วน ผ่านสายด่วน 1300 และช่องทางออนไลน์ต่างๆ พบว่า ประเทศไทย มีคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ยังประสบกับปัญหาทางสังคมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และการกระทำความรุนแรงกับกลุ่มคนเปราะบาง ดังนั้น การสร้าง city branding จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคนในมิติอื่นๆ ซึ่งเราต้องสร้างคนให้เข้มแข็งและสร้างครอบครัวเข้มแข็ง เพื่อจะนำไปสู่สังคมที่มีความสุขและเดินหน้าไปได้ นอกจากนี้ สิ่งที่เน้นย้ำในการขับเคลื่อนงานปีนี้ จะเป็นเรื่องของการดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราต้องทำให้คนไทยกลับมาดูแลผู้สูงอายุในทุกมิติ.-314.-สำนักข่าวไทย