ส่งหลักฐานคลิปวงจรปิดคดี “ปริญญ์” ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ  18 เม.ย. – ตำรวจเตรียมนำพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและหลักฐานอื่นส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเป็นของจริงหรือไม่ ยืนยันหากพบผู้ต้องหาทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว พร้อมยื่นเพิกถอนการประกันตัวทันที


พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เรียกประชุมสอบสวนคลี่คลายคดีของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อเหตุอนาจารและข่มขืนหญิงสาวหลายราย โดยเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2561 ต่อเนื่องเรื่อยมา และถูกหญิงสาวผู้เสียหายอย่างน้อย 3 คน แจ้งความดำเนินคดี ประกอบด้วย ข้อหาอนาจาร 2 คดี และข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี

ล่าสุดพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อวานที่ผ่านมา และศาลพิจารณารับฝากขังตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวน แต่ทนายความยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา โดยให้เหตุผลต่อศาลว่า ผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อีกทั้งไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หลังทราบว่าถูกดำเนินคดีและถูกตั้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาได้แสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจกระทำการตามหน้าที่ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งศาลได้พิจารณาคำร้องของผู้ต้องหาและทนาย ก่อนตีราคาประกัน โดยข้อหาอนาจาร 2 คดี ตีราคาประกัน คดีละ 200,000 บาท และคดีข่มขืนกระทำชำเราอีก 1 คดี ตีราคาประกันคดีละ 300,000 บาท รวมหลักทรัพย์ เป็นเงิน 700,000 บาท อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เวลา 16.00 น. นายษิทรา เบี้ยยังเกิด หรือทนายตั้ม เตรียมนำหญิงสาวผู้เสียหาย ที่เคยถูกนายปริญญ์ ผู้ต้องหาล่วงละเมิดมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน. ลุมพินี เพิ่มเติมอีก 5-6 คน


ภายหลังจากการประชุมนานประมาณ 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่าคดีแรกอนาจาร พนักงานสอบสวนส่งพยานหลักฐานประกอบด้วยคลิปวงจรปิดให้กับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคลิปตัดต่อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาขณะนี้มีทั้งสิ้น 4 คดี ประกอบด้วย เกิดขึ้นที่ สน.ลุมพินี 3 คดี และอีก 1 คดี อยู่ในพื้นที่ สภ.เมืองเพชรบุรี

ส่วนกรณีที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนกรณีที่นายษิทรา หรือทนายตั้มเตรียมนำผู้เสียหาย 5-6 คนเข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่ สน. ลุมพินี เป็นคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนเดียวกันนั้น ขณะนี้ได้เตรียมชุดพนักงานสอบสวนรองรับการสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้แม้มีผู้เสียหายถูกผู้ต้องหากระทำล่วงละเมิดในรูปแบบต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน คนละห้วงเวลา อีกทั้งผู้เสียหายยังเป็นคนละคน ที่ผู้สื่อข่าวสงสัยว่าควรรวมคดีให้นครบาบเป็นผู้ดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวได้หรือไม่ ตามกฎหมายแล้วไม่สามารถกระทำได้ แต่กรณีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี แต่คดีเกิดในพื้นที่อื่นก็จะทำหน้าที่ประสานส่งเรื่องต่อไปให้ อีกทั้งขอยืนยันว่าตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน เมื่อมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีและพบความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีข้าราชการยศพันตำรวจเอก และตัวผู้ต้องหาเองพยายามเข้าไปเจรจากับผู้เสียหาย เพื่อให้ยุติทางคดี ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล จากการตรวจสอบยังไม่พบพยานหลักฐานที่ชัดเจน มีเพียงคำกล่าวอ้างและกระแสข่าวเท่านั้น แต่หากมีพยานหลักฐานมายืนยันในภายหลัง ตำรวจก็พร้อมที่จะไปยื่นให้ศาลเพิกถอนการประกันตัวได้


ทั้งนี้ จากการสืบสวนของตำรวจยังไม่พบว่ามีการทำลายพยานหลักฐานจากกลุ่มผู้ต้องหามีเพียงพยานหลักฐานที่หมดอายุการเก็บรักษาตามปกติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รอง ผบช.น. ยังกล่าวอีกว่าคดีดังกล่าว ทันกรอบเวลาการส่งสำนวนให้อัยการมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

กฎหมายเปิดช่อง ริบรถพวกหัวร้อนบนถนนได้

จากคลิปรถเทสล่า ขับปาดหน้าบนทางด่วน ศาลสั่งจำคุก 1 เดือนคนขับ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่ที่สังคมต้องตระหนัก คือ ศาลยังสั่งริบรถเทสล่า มูลค่าเกือบ 2 ล้านคันนี้ด้วย วันนี้คนขับออกมาเปิดใจ พร้อมขอโทษคู่กรณี ขณะที่อัยการระบุ กฎหมายเปิดช่องให้ริบรถได้ เตือนผู้ขับขี่ใช้สติมากกว่าอารมณ์

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย