สุราษฎร์ธานี 16 เม.ย.- 2 พี่น้องร้องสื่อ อ้างถูกเมียใหม่พ่อหอบเงินค่าฌาปนกิจศพ180,000 แถมยังปลอมเอกสารรับเงินแทนทายาท แล้วเทงานศพ
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.นิตยา อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนายสุวิทย์ อายุ 66 ปี ผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 อ้างว่าถูกนางประทุม ภรรยาใหม่ของผู้เสียชีวิตที่พึ่งคบหากันได้เพียง 3 ปี ปลอมเอกสารรับเงินค่าจัดงานศพจากกองทุนฌาปนกิจหมู่บ้าน ประมาณ 180,000 กว่าบาท แล้วชิ่งหนีหายไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางมายังวัดทุ่งโพธิ์ หมู่ที่1 ต.พุนพิน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพของนายสุวิทย์ พบกับนางสาวนิตยา และนายคัมภีร์ ลูกสาวและลูกชายของผู้ตาย โดยนางสาวนิตยาเล่าว่า พ่อของตนใส่ชื่อตนเป็นผู้รับมรดก ซึ่งเป็นเงินกองทุนของฌาปนกิจตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังจากที่พ่อของตนเสียชีวิตเมื่อวันที่10 เม.ย.ที่ผ่านมา วันที่ 11 เม.ย. ภรรยาใหม่ของพ่อได้ไปรับสมุดเงินฝากจากบ้านกรรมการกองทุน และแก้ไขชื่อผู้รับเงิน จากเดิมคือนางสาวนิตยาและน้องชายคือนายคัมภีร์ เปลี่ยนมาเป็นชื่อนางศรีประทุม และต่อมาวันที่ 12 เม.ย. พบว่า นางศรีปทุมไม่ได้มาร่วมงานศพ แม้ว่าทางด้านนางสาวนิตยาและญาติๆ พยายามติดต่อไปทางโทรศัพท์แต่ติดต่อไม่ได้ จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสืบสวน สภ.ท่าฉาง
นอกจากนี้ นางสาวอาทิตยายังกล่าวต่ออีกว่า เงินทั้งหมดตนจำเป็นที่จะต้องเอามาใช้จ่ายในการจัดงานศพของคุณพ่อ ซึ่งเป็นไปตามที่คุณพ่อได้สั่งเสียไว้ก่อนเสียชีวิต หลังจากนางศรีปทุมได้หอบเงินทั้งหมดนี้ไปตนก็เดือดร้อนอย่างหนัก ไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายในงานศพของคุณพ่อจึงต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ซึ่งตนก็เป็นเพียงแม่ค้าไม่ได้มีเงินเก็บมากมายแต่อย่างใด โดยอยากให้นางศรีประทุมกลับมาที่งานศพเพื่อเคลียร์ค่าใช้จ่ายในการจัดงานส่วนเงินที่เหลือจะเอายังไงก็ค่อยว่ากันทีหลัง
ขณะเดียวกันญาติได้เล่าว่าเมื่อช่วงสายของวันอังคารที่ 12 เม.ย. มีบุคคลปริศนาเป็นชาย 2 คน ซึ่งตนและคนในงานศพก็ไม่มีใครรู้จักมาก่อน เข้ามาในงานศพ ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไรที่เข้ามายืนถ่ายภาพหน้าหีบศพ แต่สันนิษฐานได้ว่าอาจจะเป็นกรรมการกองทุนฌาปนกิจตำบลมาถ่ายเป็นหลักฐานว่าได้จ่ายเงินให้กับญาติแล้ว.-สำนักข่าวไทย