ทำเนียบรัฐบาล 5 เม.ย.-ครม.รับทราบเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องจัดทำเงื่อนไข ข้อกำหนดไม่ให้ใช้ประโยชน์จากการสร้างสะพาน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เสนอ ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ซึ่งดำเนินการโดยกรมทางหลวง ขณะนี้ได้ว่าจ้างบริษัทวิศกรที่ปรึกษาควบคุมงานและบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างและได้ลงนามสัญญาจ้างเพื่อการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว จำเป็นต้องเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวระหว่างบ้านดอนยม ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย กับบ้านก้วยอุดม เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาวเพื่อก่อสร้าง และอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายบุคลากร ยานพาหนะ เครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง กระทรวงคมนาคมมีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้ สมช.พิจารณาเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราว และเสนอให้ครม.รับทราบวันนี้
“ครม.มอบหมายกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำเงื่อนไข ข้อกำหนดและการควบคุมดูแลไม่ให้มีผลกระทบในด้านต่าง ๆ และดูแลให้การดำเนินโครงการ เป็นไปอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายและกระทบต่อความมั่นคง โดยต้องปฏิบัติตามมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ได้แก่ มติ ครม. เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2542 เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนหรือกระทำกิจการใด ๆ บริเวณชายแดน และวันที่ 10 พ.ค. 2548 เรื่อง การระงับการก่อสร้างถนนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความเห็นของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง สศช.มีความเห็นว่าควรกำหนดเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวดังกล่าวในแต่ละวัน รวมทั้งกำหนดประเภทยานพาหนะ เครื่องจักร อุปกรณ์ บุคคลเข้าออกและจำกัดอาณาเขตพื้นที่การข้ามแดนให้ชัดเจน เพื่อมิให้จุดผ่านแดนชั่วคราวถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น รวมทั้งเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย