สำนักข่าวไทย 1 เม.ย.- กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสำรวจการแพร่กระจายของสัตว์ทะเลหายากในทะเลจังหวัดตรัง ชุมพร และนครศรีธรรมราชพบทั้งพะยูน วาฬบรูด้า วาฬหลังโหนก โลมาอิรวดี และเต่าทะเล สำหรับพะยูนและวาฬหลังโหนกพบคู่แม่-ลูกซึ่งแสดงถึงความสมบูรณ์เพศของตัวสัตว์
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตกออกสำรวจการแพร่กระจายของสัตว์ทะเลหายากในทะเลตรัง โดยวิธีการบินสำรวจด้วยเครื่องบินปีกตรึง 2 ที่นั่ง สำรวจแบบ Line transect และวิธีการสำรวจทางเรือโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ บริเวณเกาะลิบง เกาะมุกด์ และหมู่เกาะใกล้เคียง ผลจากการสำรวจโดยประมาณในเบื้องต้นพบพะยูน 140-170 ตัว โดยเป็นพะยูนคู่แม่-ลูก 15-20 คู่ โลมาหลังโหนก 27 ตัว และเต่าทะเล 141 ตัว
จากการตรวจสุขภาพและประเมินสุขภาพจากการสังเกตด้วยสายตา พบว่า พะยูนแสดงพฤติกรรมว่ายน้ำหาอาหารบนแนวหญ้าทะเลและการผสมพันธุ์ นอกจากนี้การพบพะยูนคู่แม่-ลูกยังแสดงถึงความสมบูรณ์เพศของตัวสัตว์ ส่วนการตรวจสุขภาพโลมาหลังโหนกและเต่าทะเลไม่พบพฤติกรรมที่แสดงความผิดปกติ ทั้งนี้จะนำข้อมูลจากการสำรวจใช้คำนวณหาจำนวนประชากรที่แท้จริงของสัตว์ทะเลหายากในบริเวณทะเลตรังต่อไป
โดยการสำรวจสัตว์ทะเลหายากพื้นที่ทะเลจังหวัดชุมพรและนครศรีธรรมราช ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางพบสัตว์ทะเลหายาก 3 ชนิด ได้แก่
– วาฬบรูด้า 2 ตัว พบบริเวณชายฝั่งอำเภอปะทิว ห่างจากฝั่งประมาณ 15 กม. จากภาพถ่ายยืนยันได้ว่า 1 ในวาฬ 2 ตัวที่พบเป็น “เจ้าบางแสน” วาฬบรูด้าที่แสดงพฤติกรรมว่ายน้ำเดินทาง จากการตรวจสุขภาพพบว่า มีร่างกายสมบูรณ์
– โลมาหลังโหนก 23 ตัว พบบริเวณแนวชายฝั่งอำเภอหัวไทรและอ่าวปากพนัง ในจำนวนนี้พบเป็นโลมาคู่แม่-ลูก 5 คู่
– โลมาอิรวดี 1 ตัว พบบริเวณแนวชายฝั่งอำเภอหัวไทร มีพฤติกรรมว่ายน้ำรวมฝูงกับโลมาหลังโหนก จากการตรวจสุขภาพพบว่ามีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์.-สำนักข่าวไทย