ช่วยหนุ่มเวียดนามพายเรือข้ามทะเลหาภรรยาที่อินเดีย

พังงา 24 มี.ค. – ความคิดถึงเป็นเหตุ ทำให้หนุ่มเวียดนามตัดสินใจพายเรือยาง หวังข้ามทะเลอันดามันไปหาภรรยาที่อินเดีย ล่าสุดหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือ เกาะสิมิลัน ได้เข้าให้การช่วยเหลือหนุ่มชาวเวียดนามคนดังกล่าว และนำตัวกลับขึ้นฝั่งที่ จ.พังงา แล้ว หลังพายเรืออยู่กลางทะเล 18 คืน


นี่เป็นภาพบรรยากาศในขณะที่หนุ่มชาวเวียดนามวัย 37 ปี นามว่า Ho HOANG HUNG (โฮ ฮวง ฮุง) ที่ตัดสินใจเลือกใช้วิธีการพายเรือยางแบบลำเล็กๆ ขนาดไม่ถึง 3 เมตร ฝ่ากระแสคลื่นกระแสลมลอยลำอยู่ในทะเลอันดามันนานถึง 18 วัน หวังข้ามมหาสมุทรไปยังอินเดีย เพื่อไปพบภรรยาสุดที่รักที่เมืองมุมไบ แต่ยังไม่ทันบรรลุเป้าหมาย ออกไปได้ห่างจากฝั่ง จ.พังงา ราว 80 กิโลเมตร ก็ไปพบกับเรือประมงไทยที่เข้าไปให้การช่วยเหลือ ก่อนจะแจ้งประสานหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะสิมิลัน ให้มาช่วยรับตัว เพราะหวั่นว่าถ้าปล่อยให้เดินทางต่อไปจะไม่ปลอดภัย

ที่ผ่านมาเขาเดินทางกลับขึ้นฝั่งมาพร้อมกับเรือท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ ศรชล.ภาค 3 ที่เดินทางไปรับตัว จากการสังเกตภายนอกนจะเห็นว่าร่างกายดูปกติดี อาจจะมีร่องรอยของใบหน้าที่ไหม้เกรียมจากการที่เริ่มถูกแสงแดดแผดเผาไปบ้าง และมีรอยแผลลักษณะคล้ายกับรอยไหม้ตรงบริเวณข้อเท้า 2 ฝั่ง แต่ก่อนหน้านี้ทางทีม นรภ.เกาะสิมิลัน ของทัพเรือภาค 3 ได้ช่วยเหลือดูแลและปฐมพยาบาลแล้วเบื้องต้น


ขณะที่นาวาเอกพิเชษฐ์ ซองตัน โฆษก ศรชล.ภาค 3 ระบุว่า นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่นายโฮ ฮวง ฮุง สามารถเอาชีวิตรอดอยู่ในทะเลมานานได้ถึง 18 วัน บนเรือยางลำเล็กๆ ท่ามกลางคลื่นลมที่แรง โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้านี้ที่กรมอุตุนิยมวิทยามีการออกประกาศเตือนเรื่องคลื่นลมมรสุมจากอิทธิพลของพายุไซโคลนที่ขึ้นฝั่งยังเมียนมา เมื่อวันที่ 21-22 มีนาคมที่ผ่านมา โดยการที่นายโฮ ฮุง สามารถเดินทางมาได้ไกลมากถึง 80 กิโลเมตร จากฝั่ง จ.พังงา ปกติอาจเป็นเพราะกระแสน้ำและลม และหากไม่ได้รับการช่วยเหลือมีโอกาสที่เขาจะประสบกับอันตราย เป็นไปได้สูงมาก และไม่มีความเป็นไปได้เลยที่เขาจะสามารถเดินทางไปถึงเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ คือมุมไบ อินเดีย ซึ่งมีระยะทางมากกว่า 2,000 กิโลเมตร ดังนั้น ทางกองทัพเรือจึงตัดสินใจเข้าให้การช่วยเหลือ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้ช่องทางให้เขาสามารถเดินทางไปยังอินเดียได้แบบถูกกฎหมายและปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก