นิวยอร์ค 27 ก.ย. – ประเทศตูวาลู เรียกร้องให้สหประชาชาติเร่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อนที่ตูวาลูจะจมหายไปในทะเล ซึ่งคาดว่าในอีก 26 ปีข้างหน้า เกาะฟูนาฟูตี เกาะหลักของของตูวาลู จะจมอยู่ใต้ทะเลครึ่งหนึ่ง
นายกรัฐมนตรีเฟเลติ เตโอ ของตูวาลู ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติว่าด้วยปัญหาระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ เรียกร้องให้เร่งดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ก่อนที่ประเทศตูวาลูจะจมหายไปในทะเล
โดยปัจจุบัน ตูวาลูอยู่เหนือระดับน้ำทะเลเฉลี่ยเพียง 2 เมตร และกำลังประสบปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นประมาณ 15 เซนติเมตร ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 1.5 เท่า ขณะที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือนาซา คาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 หรืออีกประมาณ 26 ปีข้างหน้า กระแสน้ำทะเลขึ้นลงรายวันจะทำให้เกาะฟูนาฟูตีของตูวาลู ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรตูวาลูกว่าร้อยละ 60 จะจมอยู่ใต้น้ำทะเลครึ่งหนึ่ง โดยเกาะแห่งนี้ มีพื้นที่แคบบางส่วนเพียง 20 เมตรเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ตามสนธิสัญญาสำคัญด้านสภาพอากาศ และความมั่นคงกับออสเตรเลีย ที่ประกาศใช้เมื่อปี 2023 เปิดโอกาสให้ชาวตูวาลู 280 คน สามารถอพยพไปยังออสเตรเลียได้ในแต่ละปี เริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลและประชาชนชาวตูวาลูทั่วไป ต่างรู้สึกวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น เกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และแนวโน้มว่าจะต้องย้ายถิ่นฐานเป็นการถาวร
คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศของสหประชาชาติ จะออกรายงานเกี่ยวกับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นในปีหน้า เพื่อแสดงการสนับสนุนว่า สถานะการเป็นประเทศของตูวาลูจะดำเนินต่อไป ไม่ว่าแผ่นดินของประเทศจะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด หรือบางส่วน จากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.-815.-สำนักข่าวไทย