อุดรธานี 20 มี.ค. – “อุ๊งอิ๊ง” ยังไม่ตอบพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยหรือไม่ บอกต้องรอให้ยุบสภา ถึงตอบได้ ตั้งเป้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เพราะเชื่อมั่นพรรคเต็มไปด้วยคนมีคุณภาพ ระบุปัญหาปากท้องประชาชน มาก่อนเรื่องนำ “ทักษิน” กลับบ้าน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานเปิดตัวโครงการครอบครัวเพื่อไทย และได้รับการประกาศให้เป็น หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งการเปิดตัวหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยวันนี้ เพื่อให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ได้กลับมาร่วมอุดมการณ์เหมือนที่เคยประสบความสำเร็จ ส่วนในอนาคต ยังไม่คิดจะวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่จะเน้นการทำงานเป็นทีมการที่ตนเองเข้ามาทำงานในพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่อยู่ที่ตัวเองคนเดียว ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ แต่ตอนนี้ต้องอาศัยพรรคเพื่อจะทำให้พรรคกลับมามีความเข้มแข็ง และสร้างพลังได้อีกครั้ง
ส่วนการประกาศจะทวงคืน 14 ล้านเสียง และจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ตัวเองคนเดียว แต่ทุกคนในพรรคพร้อมเป็นแกนนำ และหากมีโอากาสได้จัดตั้งรัฐบาล จะได้ผลิตนโยบายที่ดีเพื่อให้ประชาชน และขจัดปัญหาฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ เพราะพรรคได้พิสูจน์ ตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย ว่าสิ่งที่คิดและได้เสนอออกไป ทำให้ประชาชน ได้อยู่ดี ดังนั้นนโยบายทุกอย่างที่เสนอออกไป ได้ผ่านการศึกษาหาข้อมูล ตลอด 23 ปี
ส่วนจะพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เมื่อถึงเวลาไม่ใช่แค่ตัวเองคนเดียวที่จะแก้ปัญหาแต่ทุกคนในพรรคเพื่อไทย พร้อมมาทำหน้าที่นี้ และยังตอบตอนนี้ไม่ได้ ต้องรอให้ยุบสภา เสียก่อน ส่วนตัวดีใจที่ได้เข้ามาทำงานในพรรคเพื่อไทย และได้เห็นศักยภาพของทุกคนในพรรค โดยไม่กลัวที่ประกาศขจัดระบอบเผด็จการแล้วจะเกิดผลกระทบกับตัวเอง แต่คิดว่า มันคือเรื่องจริง วันนี้เราต้องเอาระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง กลับคืนมานั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง และรัฐบาล ที่จะมาการเลือกตั้งได้ ต้องมาจากระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยควรจะเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตย 100 %
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ไม่ขอประเมินว่าจะได้คะแนนเสียง ส.ส.กี่คน เพราะเป็นเรื่องของอนาคต แต่ขอให้ได้เยอะๆ และตั้งแต่วันที่รับเป็นประธานที่ปรึกษา จนมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รู้สึกมั่นใจในพรรคเพื่อไทย ต้องมองตาถึงรู้ใจ เพราะตั้งแต่เข้ามาได้เห็น ได้เรียนรู้ มากกว่าที่อยู่ข้างนอก ในฐานะผู้เฝ้าดู และย้ำว่าพรรคเพื่อไทย มีศึกยภาพมากจริงๆ แต่ยังไม่พร้อม ลงสมัคร ส.ส.
กรณีมีการสอบถามว่าในฐานะดีเอ็นเอของทักษิณ ที่บอกว่าจะกลับบ้าน น.ส.แพธองธาร กล่าวว่า คิดว่าคุณพ่อต้องการกลับมาเพื่อเลี้ยงหลาน ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่ยอมรับว่าทุกเรื่องอยู่ในชีวิตตนเอง ปรึกษา นายทักษิณ มาตลอด เพราะเป็นครอบครัวที่ใกล้ชิดกัน และวันนี้สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่ ทักษิณจะกลับบ้านหรือไม่ แต่เป็นปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจของประเทศ และล่าสุดที่ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่สิงคโปร์ พ่อไม่ได้ให้คำแนะนำหรือปัญหาอะไร และยังให้กำลังใจเสมอ .-สำนักข่าวไทย