กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ยืนยัน เกษตรกรขายไข่คละหน้าฟาร์มที่ปรับขึ้นเป็นฟองละ 3.30 บาทตามประกาศราคาแนะนำของสมาคมผู้เลี้ยง ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ซึ่งมีผลวันนี้ ส่วนที่กรมการค้าภายในจะให้ขายเพียงฟองละ 3.20 บาท อาจเป็นเพราะไม่เข้าใจภาระต้นทุนที่เกษตรกรแบกรับ
นายสุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้กล่าวว่า เกษตรกรภาคใต้ปรับราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มขึ้นตั้งแต่วันนี้ (17 มี.ค.) ตามประกาศของราคาแนะนำของสมาคมผู้เลี้ยง ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ โดยปรับขึ้นจากราคาประกาศเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ฟองละ 3.20 บาทเป็น 3.30 บาทซึ่งสูงขึ้น 10 สตางค์
ส่วนที่อธิบดีกรมการค้าภายในระบุว่า ให้จำหน่ายเพียงฟองละ 3.20 บาท โดยปรับขึ้น 10 สตางค์จากที่ขายอยู่ 3.10 บาทนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เกษตรกรขาย 3.10 บาทต่ำกว่าราคาประกาศเพื่อตรึงราคาตามที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือ แต่ด้วยต้นทุนของผู้เลี้ยงสูงขึ้นต่อเนื่องจนไม่อาจตรึงไว้ได้แล้วจึงจำเป็นต้องปรับขึ้น ในการประชุมระหว่างกรมการค้าภายในกับสมาคมและสหกรณ์ต่างๆ เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ผู้เลี้ยงชี้แจงถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอาหารสัตว์ซึ่งคิดเป็น 60-70% ของต้นทุนการเลี้ยง แต่กรมการค้าภายในพยายามให้ขายฟองละ 3.20 บาทซึ่งอาจเป็นเพราะไม่เข้าใจภาระต้นทุนที่เกษตรกรแบกอยู่ ดังนั้นเกษตรกรยืนยันจะจำหน่ายฟองละ 3.30 บาทจนกว่าสมาคมผู้เลี้ยง ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่จะเปลี่ยนแปลง
ข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ระบุว่า ในปี 64 มีไก่ไข่ 58,291,524 ตัว โดยมากกว่าปี 2563 จำนวน 919,879 ตัวหรือเกือบ 1 ล้านตัว ส่วนผลผลิตไข่ไก่ประมาณ 42 ล้านฟองต่อวัน รวมทั้งปีผลิตได้ 15,420 ล้านฟองต่อวัน ขณะที่อัตราการบริโภคไข่ไก่ของคนไทย 223 ฟองต่อปี โดยกรมอนามัยมีเป้าหมายให้คนไทยกินไข่เพิ่มเป็นคนละ 300 ฟองต่อปี.-สำนักข่าวไทย