กรุงเทพฯ 13 มี.ค.- พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม และอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (อดีต ผบช.ภ.1)โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล เเสดงความคิดเห็นคดีเเตงโมบอกไปกันใหญ่ สนุกสนานปานละครทีวี พร้อมบอกการสอบสวนไม่ใช่โรงลิเก
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม และอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (อดีต ผบช.ภ.1) โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา แสดงความคิดเห็นถึงคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว “แตงโม” ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ มีเนื้อหาดังนี้ “ไปกันใหญ่แล้ว…สนุกสนานประดุจละครโทรทัศน์ ก็ไม่ปาน”
คดีการเสียชีวิตของ แตงโม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน/สอบสวน กำลังหมุนติ้วเป็นลูกข่างไปตามกระแสจากนักสืบโซเชียลบ้าง ผู้รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง อวดรู้บ้าง คาดเดาเต้าเรื่องบ้าง สร้างประเด็น ข้อสงสัย ข้อกังขา ข้อเรียกร้องความสนใจให้เกิดขึ้นในสังคม ต่างๆ นานา บางประเด็นถึงขนาดหมิ่นประมาทผู้เสียชีวิตก็มี
มีผู้ใหญ่รออยู่ที่โรงแรมริมน้ำ รับงานเอนฯ บ้างล่ะ 1 ใน 5 บนเรือรับสารภาพแล้ว(แอบได้ยินในห้องน้ำ) บ้างล่ะ, มีการเสพยาบนเรือบ้างล่ะ, พล.ต.ต. น แอบให้ข่าว แอบขายข่าวบ้างล่ะ, ผลการตรวจพิสูจน์ศพ จะทำให้ตำรวจอึ้งบ้างล่ะ, ชี้นำให้เอาคนบนเรือทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จ
ประเด็นเครื่องจับเท็จไม่ใช่เครื่องซักผ้า ที่อยู่ๆ จะไปเอาใครเข้าเครื่องจับเท็จได้ทันที มันมีวิธีการ มันมีกระบวนการ จะต้องแสวงหาพยานหลักฐาน มาเปรียบเทียบ มาพิสูจน์ คดีแรกที่มีการใช้เครื่องจับเท็จเข้ามาพิสูจน์ในทางคดี คือ คดีหม่อมลูกปลา หรือหม่อมชลาศัย ประเด็นที่จะพิสูจน์ใครเป็นคนชงกาแฟให้ท่านกบ กว่าจะนำไปเข้าเครื่องจับเท็จ พิสูจน์ทดลองกันหลายขั้นตอน แสวงหาพยานหลักฐานประกอบจนเห็นว่าควรนำเข้าเครื่องจับเท็จ ต่างกับการเอาผ้าไม่สะอาดเข้าไปซักแล้วออกมาขาวสะอาด.-สำนักข่าวไทย
ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งผ่านไปหยกๆ คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่บนภูหินเหล็กไฟ แห่งบ้านกกกอก ยุ่งเหยิงกันไปใหญ่ กองทัพนักข่าว ไปปักหลักทำข่าวอยู่เป็นปี สองปี ส่วนลุงพลก็กลายเป็น superstar ลำดับต้นๆ ของประเทศ แต่ก่อนแต่ไร พนักงานสืบสวนสอบสวนจะมีอิสระในการทำงาน โดยเฉพาะการสอบสวนต้องกระทำโดยลับ การให้ข่าวกับสื่อมวลชนในคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเท่าที่จำเป็น สื่อก็นำเสนอต่อสาธารณะเท่าที่ไม่เสียความยุติธรรม ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ไม่มีการโต้กันไปโต้กันมา
นอกจากนี้กระผมฟังคำให้สัมภาษณ์ของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตอบผู้สื่อข่าวว่ายังไม่ปิดคดีครับๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกว่าสอบสวนเสร็จแล้ว จะสรุปผลในวันศุกร์นี้ (11 มี.ค.65) เป็นเพราะกระแสจึงทำให้ท่านตอบเช่นนั้นหรือไม่ครับ ถ้าใช่!!ท่านอย่าลืมนะครับว่าการสอบสวนต้องกระทำด้วยความ “รวดเร็ว ต่อเนื่อง เป็นธรรม” เมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว กล่าวคือสอบจนสิ้นกระแสความแล้ว จะต้องทำความเห็นตามท้องสำนวน ไม่ใช่เมื่อมีกระแสจึงไม่กล้าปิด การสอบสวนไม่ใช่โรงลิเก (ปิด-เปิดม่าน) หากมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญก็สามารถรื้อคดีใหม่ได้ เหมือนคดีการเสียชีวิตของ ส.ส.ห้างทองธรรมวัฒนะ.-สำนักข่าวไทย