กรุงเทพฯ 10 มี.ค.- รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยระบุ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม โดยราคาสินค้าจะมีการทยอยปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและราคาสินค้าจะมีการทยอยปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นว่า ที่ผ่านมาทุกกลุ่มอุตสาหกรรมพยายามตรึงราคา แต่เนื่องจากแต่ละมีสต๊อกไม่เท่ากัน จึงอาจจะต้องมีการทยอยปรับขึ้นราคา และเมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ก็ทำให้ราคาค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.25 บาท ดังนั้นถ้าน้ำมันเพิ่ม 10 เหรียญ ก็ทำให้ราคาค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.5 บาท จะเห็นว่า แม้กระทั่งบะหมี่สำเร็จรูป ซึ่งเป็นตัวดัชนีของผู้บริโภค เป็นตัวชี้วัด คล้ายๆ กับอเมริกา ก็เป็นแฮมเบอร์เกอร์ หรือ แม็คโดนัล ก็มีการขอปรับขึ้นราคา เนื่องจากข้าวสาลี ที่เป็นวัตถุดิบผลิตที่สำคัญ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่กังวลคือ แร่ธาตุหายาก เช่น นิเกิล โดยผลกระทบมีทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงตือ คือ ต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้ปรับราคาขึ้นแล้ว 5% ส่วนทางอ้อมคือ ปัญหาขาดแคลน ซึ่งจะทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงัก แม้กระทั่งโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่งทั่วโลก ดีมานด์มี มีออเดอร์ดี แต่ต้องหยุดการผลิต เพราะขาดชิ้นส่วน ซัพพลายเชนช็อต ซึ่งเป็นเรื่องที่เรากำลังกังวลอยู่ เพราะฉะนั้น จึงมองว่า ในช่วง 3-6 เดือนนี้ ราคาสินค้าจะค่อยๆปรับราคาขึ้น อย่างเรื่องของปุ๋ยเคมี จะมีการขอปรับราคาในช่าง 1-2 เดือนนี้ .-สำนักข่าวไทย