นายกฯ เผยมีมาตรการรองรับสถานการณ์ “รัสเซีย-ยูเครน” แล้ว

ทำเนียบ 1 มี.ค.-นายกฯ เผยเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ “รัสเซีย-ยูเครน” แล้ว ชี้จุดยืนของไทยเป็นไปตามอาเซียน เตรียมรับมือผลกระทบด้านเศรษฐกิจหากสถานการณ์ยืดเยื้อ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง สถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ว่า วานนี้(28 ก.พ.) ได้ประชุมเตรียมการแล้ว โดยได้มีการเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่ควรจะพูดคุยกันคือจะทำอย่างไรให้สงครามและความรุนแรงยุติลงให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบกันทั้งโลกในหลายมิติ เราจึงต้องเดินหน้าอย่างระมัดระวัง และใช้กลไกของต่างประเทศ และกลไกของอาเซียน


ส่วนท่าทีของบางประเทศ ที่อยากให้ไทยแสดงจุดยืน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของอาเซียนและเป็นเรื่องของภูมิภาค ซึ่งเราจะต้องรักษาสมดุลตรงนี้ไว้ให้ได้ โดยเป็นห่วงชีวิตของคนทุกประเทศให้ปลอดภัย และสิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้คนไทยปลอดภัย และต้องสนับสนุนกระบวนการสันติภาพให้จบสิ้นโดยเร็ว เพราะไม่มีอะไรดีกับใครทั้งนั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากสถานการณ์เลวร้ายยืดเยื้อต่อไป ผลกระทบที่ต้องรับมือเป็นสิ่งแรก คือเรื่องเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนต่างๆ มีหลายอย่างที่มีเศรษฐกิจห่วงโซ่เดียวกัน โดยวานนี้ได้เรียกประชุมกับรองนายกรัฐมนตรี โดยเร่งด่วน เพื่อให้เตรียมมาตรการเหล่านี้ตามวิกฤตการณ์และสมมุติฐานที่วางไว้ 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งวันนี้อยู่ในขั้นที่ 1 ส่วนขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องไปดำเนินการเตรียมมาตรการไว้


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องสถานการณ์ไข่แพงจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาจากราคาอาหารสัตว์แพงขึ้น ซึ่งต้องไปดูว่า สาเหตุที่ทำให้ราคาปรับสูงขึ้นเป็นเพราะอะไร แต่ขอร้องอย่าฉวยโอกาสในขณะนี้ และรัฐบาลก็พร้อมให้หามาตรการเข้าไปช่วยเหลือ แต่บางเรื่องก็ต้องให้เป็นไปตามกลไกตลาด สิ่งสำคัญคือ ความเข้าใจและความร่วมมือกัน และได้ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนไปแล้ว

“ผมเป็นห่วงเรื่องราคาสินค้าที่แพงขึ้น นั้นคือผลกระทบในขณะนี้ ถึงแม้จะไม่มีสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนก็ตาม เพราะฉะนั้นต้องขอความร่วมมือจากทุกคน”พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือเรื่องราคาน้ำมันเบนซิน ว่า ได้หารือและสั่งการให้หามาตรการช่วยเหลือแล้ว ซึ่งอาจจะช่วยเหลือเป็นเฉพาะกลุ่ม หรืออาชีพต่างๆ เพราะรัฐบาลไม่มีงบประมาณไปช่วยเหลือได้ทุกกลุ่มได้  ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอด ทั้งการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งก็ต้องยอมรับการสูญเสียการจัดเก็บรายได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขออย่าเสนอข่าวย้อนแย้งกัน ซึ่งคณะทำงานก็พิจารณาเรื่องภาษีอื่นๆ ไปทั้งหมดแล้ว และถ้าทำได้ก็ทำให้หมด ซึ่งรัฐบาลเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา และอุปสรรคต่างๆเยอะแยะไปหมด ต้องแก้ปัญหาไปให้ได้ ไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีปัญหา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร